“พิชาย” ชี้เลือกตั้ง 2 ก.พ.โอกาสเป็นโมฆะสูง แต่รัฐบาลยังดึงดันเพราะหวังใช้อ้างความชอบธรรมว่าประชาชนยังยอมรับระบบการเมืองเก่าอยู่ ลั่นอย่าไปลงคะแนนเพื่อตบหน้ารัฐบาลทรราช ไม่ต้องเสียดายสิทธิ เนื่องจากการต่อสู้ปฏิวัติประชาชนเป็นเรื่องใหญ่กว่ามาก พร้อมเตือน กกต.ระวังติดคุก ฝืนจัดเลือกตั้งหลายหนเสี่ยงผิดรัฐธรรมนูญ
วันนี้ (29 ม.ค.) รศ.ดร.พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต คณบดีคณะพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) กล่าวในรายการ “เกาะติดชัตดาวน์กรุงเทพฯ” ทางเอเอสทีวี ว่าวันเลือกตั้ง 2 ก.พ. ทางภาคเหนือและอีสานคงจัดเลือกตั้งได้ตามปกติ แต่ภาคใต้หลายหน่วยคงมีปัญหา ส่วนคนกรุงเทพฯ การเลือกตั้งคราวนี้ไม่ต้องไปยุ่ง อยู่เฉยๆ ก็เป็นการเลือกตั้งที่ไม่มีประสิทธิผล ปกติการเลือกตั้งก็เพื่อให้ ส.ส.ไปทำหน้าที่สถาปนาสภาฯ แล้วสภาไปสถาปนารัฐบาล แต่การเลือกตั้งครั้งนี้ ส.ส.ระดับเขตได้ไม่ถึงเกณฑ์ที่รัฐธรรมนูญกำหนดแน่ๆ อยู่แล้ว นอกจากนั้น ส.ส.บัญชีรายชื่ออาจไม่สามารถนับได้ เพราะบางเขตอาจไม่มีการเลือกตั้ง ฉะนั้นประกาศรับรองไม่ได้ ถึงจะได้ก็อีกยาว ถึงอย่างไรก็ได้ ส.ส.ไม่ถึง 95 เปอร์เซ็นต์ หรือ 475 คนแน่นอน ฉะนั้นก็สถาปนาเป็นสภาผู้แทนราษฎรไม่ได้ มีแต่ ส.ส.บางเขต แต่ไร้สภา ฉะนั้นอำนาจนิติบัญญัติก็ไม่เกิด ไม่ได้สภา ไม่ได้รัฐบาล ยิ่งกว่านั้นมีแนวโน้มถูกฟ้องให้การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นโมฆะ มันก็เชื่อมโยงกับรัฐธรรมนูญ ที่ให้การเลือกตั้งทั่วไปจัดในวันเดียว แต่ กกต.เล่นแง่จะจัดอีกภายหลังได้ ฉะนั้นถ้ามีคนฟ้องจะไม่ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญ มีโอกาสถูกวินิจฉัยเป็นโมฆะสูง ส่วนเลือกตั้งเขตสามารถจัดเลือกตั้งซ่อมได้ แต่ครั้งนี้ก็อาจจะผิดอีก เพราะไม่ได้เกิดจากการที่ กกต.ให้ใบแดง แต่เพราะคนไม่ลงสมัคร ดังนั้นการเลือกตั้งมีแนวโน้มโมฆะเพราะขัดกฎหมายหลายข้อ
นายพิชายกล่าวต่อว่า ทีนี้รัฐบาลก็รู้ว่ามีแนวโน้มโมฆะแต่ยังดันทุรัง เพราะเขาคงคิดว่าจะเอาการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นสัญลักษณ์ว่าชนะ กปปส.แล้ว ที่สามารถจัดเลือกตั้งได้ และอาจอาศัยการที่ตัวเองได้มี ส.ส.จำนวนหนึ่งเพื่ออ้างว่ามีคนเลือกเขา เป็นฐานอ้างความชอบธรรม แต่ถ้าไม่เลือกตั้งรัฐบาลจะไม่จะไม่มีอะไรในมือเลย
นายพิชายกล่าวอีกว่า ตนเชื่อว่ารัฐบาลจะดำเนินการด้วยความรุนแรงเพื่อจัดเลือกตั้งให้ได้ คงมีการเตรียมแก๊งอันธพาลไว้คอยทำร้ายประชาชน ฉะนั้นชัดเจน 2 ก.พ. ไม่ต้องไปเลือกตั้ง เราต้องเข้าใจว่าการต่อสู้ครั้งนี้เป็นการต่อสู้เพื่อปฏิวัติประชาชน เพื่อแย่งชิงอำนาจรัฐ อย่าไปกังวลเรื่องเสียสิทธิเลือกตั้ง บางคนคิดว่าเสียดายสิทธิอยากไปเลือก ถ้าไปก็เท่ากับว่าไปสร้างความชอบธรรมให้การเลือกตั้งที่ไร้ความชอบธรรม ให้รัฐบาลเอาไปอ้างว่าคนไปใช้สิทธิเยอะแยะเพราะคนยังพอใจกับระบอบการเมืองปัจจุบัน แต่ถ้าไม่ไปเท่ากับปฏิเสธระบบการเมืองที่เป็นอยู่ปัจจุบัน
“ไม่ไปเลือกตั้งเพื่อปฏิเสธระบอบทักษิณ เป็นการตบหน้ารัฐบาลทรราชให้มันสำนึก เพราะถ้าคนไม่ไปเลือกตั้งมากๆ หมายความว่าระบบการเมืองเกิดวิกฤตความชอบธรรมจริงๆ พอเห็นภาพเปรียบเทียบกับปีก่อน ทั่วโลกก็จะได้เห็น รัฐบาลก็เอาไปอ้างความชอบธรรมไม่ได้ เพราะเป็นแค่คนส่วนน้อยที่เลือกมันเข้าไป” นายพิชายกล่าว
นายพิชายยังกล่าวต่อว่า คนที่กลัวเสียสิทธิต่างๆ จะไปโหวตโน นั่นจะเท่ากับว่ายังยอมรับระบบเลือกตั้งนี้ อย่าลืมตอนนี้เราต้องการปฏิวัติประชาชน ประเด็นนิติศาสตร์ไม่ต้องไปสนใจ การผิดกฎหมายเลือกตั้ง เสียสิทธิเลือกตั้ง เป็นประเด็นเล็กมากเมื่อเทียบกับการที่เราจะชิงอำนาจมาจากรัฐบาลทรราช การเลือกตั้งหมายถึงระบบการเมืองที่ลงตัวแล้ว แต่นี่เราต้องการเปลี่ยนจากระบบเดิม คนที่เป็นไทยเฉยก็นอนอยู่กับบ้าน ส่วนคนที่ต้องการเปลี่ยนแปลง ก็ควรออกมาแสดงพลัง อาจทำป้ายประณามรัฐบาลทรราชแล้วไปชูตามคูหาเลือกตั้ง ใครไปใช้สิทธิก็ไม่ต้องไปขวาง ถ้าทำได้ทุกที่จะเป็นการประจานรัฐบาลครั้งใหญ่ ถือเป็นการอาศัยการเลือกตั้งเป็นการเปิดเผยความชั่วร้ายของรัฐบาล
นายพิชายกล่าวอีกว่า จำนวนคนไปเลือกตั้งต่อให้น้อยแค่ไหนก็ไม่ทำให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ ถ้าถูกต้องตามองค์ประกอบอื่น ที่แชร์กันตามเฟซบุ๊กไม่เป็นความจริง แต่จำนวนคนไม่ไปใช้สิทธิจะตัวบอกว่าประชาชนปฏิเสธระบบการเมืองชั่วๆ นี้แล้ว ส่วน กกต. ที่พยายามจะจัดเลือกตั้งไปเรื่อยๆ จนได้ครบจำนวน อยากเสี่ยงผิดกฎหมาย ติดคุก ก็ทำไป
