รองโฆษก ปชป.ตำหนิ “ปึ้ง-เหลิม” สับสนภารกิจ ศอ.รส.-ศรส.มั่วแถลงจับยาบ้า ย้อนหวังใส่ร้ายผู้ชุมนุมหรือไม่ จี้ ไร้ภารกิจยุบหน่วยงานทิ้ง รอง หน.ปชป. เปรียบ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เสมือนหมาเห่าใบตองแห้ง ผู้ชุมนุมเพิ่มขึ้น และถูกทำร้ายฝ่ายเดียว ข้องใจสร้างเหตุเพื่อออก พ.ร.ก.ไม่ชอบด้วย กม.ย้อนทิ่ม รบ.เองที่กำลังดิ้นเฮือกสุดท้าย
วันนี้ (26 ม.ค.) นายจุฤทธิ์ ลักษณวิศิษฏ์ รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ตำหนิการทำงานของ นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกฯ และ รมว.ต่างประเทศ อดีตประธานที่ปรึกษา ศอ.รส.และ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงานและสวัสดิการสังคม ผอ.ศรส.ร่วมกันแถลงข่าวในเรื่องการจับคดียาเสพติดคือจับยาบ้าได้ 5 แสนเม็ด ถือว่าเป็นการสับสนในภารกิจหรือไม่ เพราะ ศอ.รส.และ ศรส.ตั้งขึ้นเพื่อดูแลความสงบเรียบร้อยภายในประเทศ การจับยาเสพติดไม่ใช่ภารกิจของศอ.รส.และ ศรส. และทั้งสองคนไม่ได้เกี่ยวข้องกับงานปราบปรามยาเสพติดเลย หรือต้องการสร้างภาพให้เกิดความเข้าใจผิดกับผู้ชุมนุมหรือไม่ เพราะการแถลงดังกล่าวอาจสะท้อนให้มีการบิดเบือนว่าการจับยาเสพติดเกี่ยวข้องกับผู้ชุมนุมหรือไม่ หากตั้งใจเบี่ยงเบนประเด็น จะทำให้เกิดความขัดแย้งระหว่างกับประชาชนมากขึ้น และกระทบภาพลักษณ์ของประเทศด้วย
“ผมสงสัยว่าขณะนี้สถานภาพของ ศอ.รส.และ พ.ร.บ.ความมั่นค งยังมีอยู่หรือไม่ เมื่อมีการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แล้ว หากไม่มีภารกิจที่จะแก้ปัญหาประเทศชาติได้ ขอให้ยุบทั้งสองหน่วยงาน เพราะผู้ชุมนุมสันติไม่ใช้อาวุธ และศาลรัฐธรรมนูญเคยให้การรับรองไว้แล้ว โดยเฉพาะ”
ด้าน นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การใช้ประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เปรียบเสมือนหมาเห่าใบตองแห้ง แต่ไม่สามารถแก้ปัญหาให้เกิดความสงบในประเทศได้ เพราะหลังจากมีการประกาศใช้กฎหมายความมั่นคงมายาวนาน ก็ไม่สามารถยุติการชุมนุมได้ มีแต่จะขยายตัวเพิ่มขึ้น แม้มีการอายัดบัญชี แต่ประชาชนกลับให้เงินสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง การที่รัฐบาลหันมาใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เป็นไพ่ใบสุดท้ายเพื่อเล่นงานผู้ชุมนุม ทั้งๆ ที่ผู้ชุมไม่ได้ใช้ความรุนแรง ก่อการร้าย หรือดำเนินการมีผลร้ายแรง ใช้ความรุนแรงต่อรัฐ แต่ผู้ชุมนุมกลับถูกกระทำฝ่ายเดียว ทำให้เกิดคำถามว่าเป็นการสร้างสถานการณ์เพื่อประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ใช่หรือไม่
ทั้งนี้ เห็นว่าการประกาศดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะไม่มีเหตุฉุกเฉินร้ายแรง เป็นการใช้กฎหมายพิเศษโดยไม่ชอบธรรม เพราะการชุมนุมยังอยู่ภายใต้บทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ ประชาชนที่สนับสนุนการชุมนุมเห็นว่า การใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ประชาชนเห็นว่าเป็นการกระทำลุแก่อำนาจ จึงแสดงออกด้วยการอารยะขัดขืน แสดงว่าการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ไม่ใช่ดาบวิเศษที่จะแก้ปัญหาให้รัฐบาล แต่ว่าจะเป็นคมหอกคมดาบที่กลับมาทิ่มแทงรัฐบาลเอง สิ่งที่เกิดขึ้นจึงเป็นเพียงการดิ้นเพื่อต่อลมหายใจเฮือกสุดท้ายให้กับรัฐบาลเท่านั้น ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์แต่อย่างใด
