รองโฆษกตำรวจลั่น คปท.ทำลายป้าย สตช.ผิดกฎหมาย เตรียมดำเนินคดีข้อหาทำลายทรัพย์สินราชการ ยกกรณี “พระสังฆราช” เป็นผู้ทำพิธีเจิมป้าย อ้างถึงความไม่เหมาะสม ด้าน “นิติธร” เผยหากยอมรับปากว่าจะเลิกรับใช้รัฐบาล จะทำป้ายด้วยแร่เงินอย่างดีมอบคืนให้
วันนี้ (22 ม.ค.) พ.ต.ท.หญิง อัญชุลี ธีระวงศ์ไพศาล รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีกลุ่ม คปท.กระทำการรื้อป้ายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่าเหตุการณ์ดังกล่าวถือว่าเป็นการทำลายทรัพย์สินของทางราชการ ซึ่งถือว่าเป็นของประชาชนทุกคน การกระทำดังกล่าวอยากจะให้ประชาชนได้ตัดสินว่าเป็นการกระทำที่ถูกต้องเหมาะสมแล้วหรือไม่ เพราะที่ผ่านมาป้ายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เปิดผ้าแพรทำพิธีเจิมป้ายสำนักงานตำรวจแห่งชาติเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2547 และวันนี้เป็นวันครบรอบ 100 วันในการสิ้นพระชนม์ของพระองค์ท่าน ในการกระทำในครั้งนี้ก็อยู่ในสายตาประชาชนที่จะเป็นผู้ตัดสินว่าเป็นการกระทำที่เหมาะสมหรือไม่
“ความรู้สึกของตำรวจหลายๆ คนเชื่อว่าจะรู้สึกไม่พอใจกับการกระทำครั้งนี้ของกลุ่ม คปท.ที่เข้ามารื้อป้ายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ส่วนตัวแล้วมีความรู้สึกมองแบบเข้าใจว่าผู้ชุมนุมเป็นการเมืองอย่างหนึ่ง ผู้ที่กระทำถูกยั่วยุกระทำในเชิงสัญลักษณ์ต่างๆ นานา ซึ่งหากมองว่าเหมาะสมหรือไม่ประชาชนจะเป็นผู้ตัดสิน แต่ที่แน่ๆ เป็นการกระที่ผิดกฎหมาย” พ.ต.ท.หญิง อัญชุลีกล่าว
ทางด้าน พล.ต.ต.อนุชา รมยะนันทน์ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวต่อว่า เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ว่ากันไปตามพยานหลักฐานต่างๆ ซึ่งมีภาพวงจรปิดที่สามารถระบุผู้ที่กระทำผิดได้ และต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายในข้อหาทำลายทรัพย์สินของทางราชการ ส่วนในข้อหาอื่นรอดูว่าจะเข้าข่ายข้อหาใดเพิ่มเติม
อีกด้านหนึ่ง นายนิติธร ล้ำเหลือ ที่ปรึกษา คปท.กล่าวว่า การเคลื่อนไหวที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ในวันนี้ไม่ใช่การดูถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่เป็นการเรียกร้องอย่างตรงไปตรงมาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจแสดงจุดยืนมาอยู่ในความถูกต้อง หากเจ้าหน้าที่ตำรวจยอมพูดคุยกับประชาชนและรับปากว่าจะไม่รับใช้รัฐบาลผิดกฎหมาย คปท.จะทำป้ายสำนักงานตำรวจแห่งชาติด้วยแร่เงินอย่างดีไปมอบคืนให้
“มีข่าวว่าจะมีความรุนแรงเกิดขึ้นกับ คปท.ในคืนนี้ แต่เป็นหน้าที่ของตำรวจที่จะต้องดูแล และหากยังเกิดความรุนแรงก็จะยิ่งทำให้ความเชื่อที่ว่าตำรวจมุ่งทำลายล้างประชาชนมีมากขึ้น ส่วนทางคปท.ยังเตรียมการรับมือตามปกติ” นายนิติธรกล่าว
