นายกฯ ลั่นประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ไม่ซ้ำรอยปี 53 แต่ไม่ตอบทำไมไม่นั่ง ศรส.เอง “ภราดร” เตรียมเจรจาแกนนำ เริ่มแจ้งวัฒนะจุดแรก จ่อสอบ “บลูสกาย” แต่อ้างยังไม่ปิดสถานี “เหลิม” ขอเดินสายเจรจา “ถาวร-พุทธิพงษ์-สกลธี” อ้างชอบคอกัน เหน็บกฎอัยการศึกเคยเลือกตั้งกันได้
วันนี้ (21 ม.ค.) ที่กองบัญชาการกองทัพอากาศ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวว่า ในที่ประชุม ครม.ได้เน้นย้ำให้ศูนย์รักษาความสงบ (ศรส.) ที่มี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รักษาการ รมว.แรงงาน เข้ามาดูแลให้เจ้าหน้าที่ทุกคนปฏิบัติหน้าที่ด้วยความอดทน อดกลั้น เราเน้นขั้นตอนตามหลักสากลต้องเริ่มจากการเจรจา
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายกฯ ห่วงหรือไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์เหมือนปี 2553 น.ส.ยิ่งลักษณ์ ตอบว่า เราได้ย้ำแล้ว จึงเป็นเหตุผลหนึ่งที่เราใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นหลักเหมือนเดิม เพราะเรื่องขั้นตอนกฎหมายต่างๆ ทาง ครม.ได้เน้นย้ำว่าให้เจ้าหน้าที่ทุกคนใช้กฎหมายด้วยความระมัดระวัง โดยเราจะดูแลตามหลักสากล อันนี้ขอให้สบายใจ
เมื่อถามว่า ทำไมนายกฯ ไม่เป็นประธาน ศรส.ด้วยตัวเอง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่ยอมตอบคำถามดังกล่าว โดยเดินเลี่ยงออกจากวงผู้สื่อข่าวไปทันที
พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุผลในการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และตั้ง ศรส.ว่า เพื่อทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมีประสิทธิภาพในการรักษาความสงบเรียบร้อย ซึ่งจะใช้กำลังเจ้าหน้าที่เท่าเดิม ส่วนกำลังทหารที่เข้ามาช่วยยังคงใช้ 40 กองร้อยเช่นเดิม โดยทางปฏิบัติภายหลังประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จะเริ่มเข้าไปประสานทำความเข้าใจกับแกนนำ โดยเฉพาะในจุดที่สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน
ซึ่งในวันที่ 22 ม.ค.จะไปทำความเข้าใจกับแกนนำที่กรมการกงสุล แจ้งวัฒนะ เนื่องจากประชาชนได้รับความเดือดร้อนไม่สามารถไปรับหนังสือเดินทางได้ ซึ่งขณะนี้ค้างอยู่ 25,000 เล่ม สำหรับสื่อมวลชนที่เสนอข้อมูลไม่ตรงกับข้อเท็จจริง โดยเฉพาะสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมบลูสกาย เราจะเข้าไปทำความเข้าใจเช่นกัน แต่จะไม่ถึงขั้นปิดสถานี ถึงแม้จะมีอำนาจก็ตาม
“การประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ทำให้เจ้าหน้าที่มีอำนาจมากขึ้น แต่ไม่ได้หมายความว่าเราจะไปจู่โจมหรือสลายการชุมนุม เราจะมุ่งที่แกนนำเป็นหลัก” พล.ท.ภราดรกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ครั้งนี้ดูเหมือนทหารไม่อยากเข้ามายุ่งเกี่ยวด้วย ซึ่งต่างจากในอดีตที่จะให้ทหารเป็นผู้รับผิดชอบ พล.ท.ภราดร กล่าวว่า การใช้ตำรวจหรือทหารเป็นนโยบายของแต่ละรัฐบาล ซึ่งไม่เหมือนกัน และในต่างประเทศที่เป็นอารยะจะใช้ตำรวจนำ เพราะจะไม่ทำให้เกิดความรุนแรง เป็นการปรับรูปแบบใหม่ ซึ่งมั่นใจว่าจะไม่มีปัญหาในเรื่องการสั่งการ
เมื่อถามว่า หากประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แล้วหากผู้ชุมนุมขัดขืนจะทำให้เกิดความรุนแรงขึ้นหรือไม่ เลขาฯ สมช.กล่าวว่า เราต้องทำความเข้าใจว่าถ้าขัดขืนจะยิ่งผิดกฎหมายมากขึ้น
เมื่อถามว่า ที่มีการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งด้วยหรือไม่ เลขาฯ สมช.กล่าวว่า ต้องเกี่ยวแน่นอน เพราะ กปปส.มีการเคลื่อนไหวเพื่อสกัดไม่ให้มีการเลือกตั้ง และยังขัดขวางโรงพิมพ์ในการพิมพ์บัตรเลือกตั้ง จึงต้องดำเนินการให้การเลือกตั้งเป็นไปอย่างราบรื่น
ด้าน ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงาน ในฐานะ ผอ.ศรส.ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ว่า จะสามารถควบคุมสถานการณ์ให้สงบเรียบร้อยได้โดยเร็ว เนื่องจากว่าตนจะเดินสายเจรจาด้วยตนเองในบางส่วน ไม่ว่าจะเป็นนายถาวร เสนเนียม นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ และนายสกลธี ภัททิยกุล แกนนำ กปปส.คนชอบๆ กันทั้งนั้น
เมื่อถามว่า จะสามารถเจรจาได้หรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า หนักเป็นเบาทุเลาเป็นหาย ส่วนข้อกังวลว่าเรื่องการเลือกตั้งที่อยู่ภายใต้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จะชอบธรรมหรือไม่นั้น ที่ผ่านมาก็มีการเลือกตั้งภายใต้กฎอัยการศึกมาแล้ว
