ทนายความ คปท.เผยเตรียมหลักทรัพย์ 1 แสนบาท ยื่นประกันตัว “พิชิต ไชยมงคล” โฆษก คปท. หลังถูกจับกลางห้างดัง เบื้องต้น “ธาริต” ส่ง พสง.สอบปากคำไม่อนุญาตให้ประกันตัว อ้างเหตุมีพฤติกรรมนำมวลชนไปบุกรุกสถานที่ราชการอีกหลายแห่ง รวมทั้งยังเป็น 1 ใน 9 รายที่ดีเอสไอยื่นศาลขอให้ถอนประกันในคดีกลุ่มพันธมิตรฯ โดย จนท.จะนำตัวไปขออำนาจศาลฝากขัง พรุ่งนี้ (31 ธ.ค.) ขณะที่เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การปฏิเสธและขอให้การในชั้นศาล
วันนี้ (30 ธ.ค.) น.ส.พวงทิพย์ บุญสนอง ทนายความเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย หรือ คปท. เปิดเผยความคืบหน้าการยื่นประกันตัวนายพิชิต ไชยมงคล โฆษก คปท. หลังถูกตำรวจจับกุมกลางห้างดังย่านศรีนครินทร์และนำตัวไปควบคุมที่กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 1 อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เมื่อคืนที่ผ่านมาว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างรอความเห็นและการอนุมัติวงเงินประกันจากนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ เบื้องต้นทางทนายความเตรียมหลักทรัพย์ประกันตัวจำนวน 100,000 บาท ซึ่งหากพนักงานสอบสวน ไม่อนุญาตให้ประกันตัวก็คาดว่าพนักงานสอบสวนจะนำตัวนายพิชิตไปขออำนาจศาลฝากขังผลัดแรกในวันพรุ่งนี้ (31 ธ.ค.) ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น ทางทนายความก็จะยื่นประกันตัวในชั้นศาลต่อไป ทั้งนี้นายพิชิต ยังถูกควบคุมตัว ที่กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 1 อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี
ด้านนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวว่าได้มอบหมายให้ พ.ต.ท.ถวัล มั่งคั่ง ผู้เชี่ยวชาญคดีพิเศษ พร้อมพนักงานสอบสวนเดินทางไปสอบปากคำ นายพิชิตไชยมงคล ไชยมงคล โฆษกกลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีบุกรุกกระทรวงการต่างประเทศ ร่วมกับอัยการและตำรวจ เนื่องจากคดีดังกล่าวดีเอสไอได้รับเป็นคดีพิเศษแล้ว
ทั้งนี้ ในวันที่ 31 ธ.ค.จะนำตัวนายพิชิตไปขออำนาจศาลฝากขังในช่วงเช้าและขอศาลคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากพบว่า นายพิชิตมีพฤติกรรมนำมวลชนไปบุกรุกสถานที่ราชการอีกหลายแห่ง รวมทั้งยังเป็น 1 ใน 9 รายที่ดีเอสไอยื่นศาลขอให้ถอนประกันในคดีกลุ่มพันธมิตรฯ
อย่างไรก็ตาม ในการสอบปากคำเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การปฏิเสธและขอให้การในชั้นศาล ซึ่งคาดว่าต้องใช้วงเงินประกันประมาณ 1 แสนบาท
ขณะที่ พ.ต.ท.ถวัลเปิดเผยว่า ดีเอสไอจะแจ้งข้อหาเพิ่มเติมต่อนายพิชิต ในส่วนที่ออกหมายเรียกไปก่อนหน้านี้คือร่วมกันบุกรุก โดยร่วมกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปในเวลากลางคืน มั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไปให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง ร่วมกันฝ่าฝืนข้อกำหนดออกตามความใน พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงฯ และทำให้เสียทรัพย์ ซึ่งเป็นความผิดตามมาตรา 215, 216, 362, 365 ประกอบมาตรา 83 และ 24 แห่ง พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ
