กกต.แถลง 9 พรรคหลุดเข้าสมัครได้ อีก 25 แจ้งความไว้ที่ สน.ดินแดง และกองปราบฯ “สมชัย” ยันยังไม่สมบูรณ์ รอตรวจหลักฐานก่อนแจ้งวันให้มาจับสลาก ชี้เอกสารเซ็นตี 3 แค่ลงเวลามา ชม จนท.ขยัน อ้างเหมือนคนอยากได้ไอโฟนใหม่ ปัดรับสมัครในโรงพัก ขอดูก่อนแจ้งความหรือไม่ ประธานบอกเข้าไปไม่ได้จริงๆ “ธีระวัฒน์” เล็งดูสถานที่ใหม่หรือเลื่อนวัน เผย เพื่อไทย-ชาติไทยพัฒนาส่งครบ 125 ชื่อ “ปู-เติ้ง” เบอร์ 1
วันนี้ (23 ธ.ค.) ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) คณะกรรมการการเลือกตั้ง นำโดยนายศุภชัย สมเจริญ ประธาน กกต. แถลงว่า จากกรณีที่กลุ่มปิดล้อมสถานที่รับสมัคร คืออาคารกีฬาเวสน์ 2 ศูนย์เยาวชนไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง ทำให้มีพรรคการเมือง กกต. และเจ้าหน้าที่ กกต.ไม่สามารถเข้าไปยังสถานที่รับสมัครได้ แต่ก็มีบางพรรคการเมืองที่สามารถเดินทางเข้าไปได้ก่อนเวลา 08.30 น. 9 พรรค ประกอบด้วย 1. พรรคประชาธิปไตยใหม่ 2. พรรคชาติพัฒนา 3. พรรคเพื่อไทย 4. พรรคดำรงไทย 5. พรรคกสิกรไทย 6. พรรคถิ่นกาขาว 7. พรรคชาติประชาธิปไตยก้าวหน้า 8. พรรคชาติไทยพัฒนา 9. พรรคเครือข่ายชาวนาแห่งประเทศไทย ส่วนพรรคที่เดินทางไปยังแต่ไม่สามารถเข้าไปยังสถานที่รับสมัครได้และเดินทางไปแจ้งความไว้ที่ สน.ดินแดง มี 25 พรรค ประกอบด้วย พรรคพลังประเทศไทย พรรคเสรีนิยม พรรคชาติสามัคคี พรรครักไท พรรคไทยมหารัฐพัฒนา พรรคเสียงประชาชน พรรครักษ์สันติ พรรคภราดรภาพ พรรคพลังสหกรณ์ พรรคทวงคืนผืนป่าประเทศไทย พรรคแทนคุณแผ่นดิน พรรคพลังประชาธิปไตย พรรคเมืองไทยของเรา พรรคประชาสันติ พรรคพลังไทยเครือข่าย พรรคไทยรักธรรม พรรคยางพาราไทย พรรคครูไทยเพื่อประชาชน พรรคคนขอปลดหนี้ พรรคประชาสามัคคี พรรคเพื่อสันติ พรรครักประเทศไทย พรรคภูมิใจไทย และพรรคพรรคพลังรักชาติ และมีที่เดินทางไปแจ้งความไว้ที่กองบังคับการกองปราบปรามอีก 1 พรรค คือ พรรคพลังเค่รือข่ายประชาชน รวมมีพรรคการเมืองที่ยื่นความประสงค์จะลงสมัครก่อนเวลา 08.30 น. ทั้งหมด 34 พรรค
นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านบริหารงานเลือกตั้ง กล่าวว่า การดำเนินการดังกล่าวของพรรคการเมือง จนถึงขณะนี้ กกต.ยังไม่ถือว่าเป็นการรับสมัครที่สมบูรณ์ เพราะจะต้องมีการตรวจหลักฐาน รับเงินค่าสมัคร และลงนามโดย กกต. ซึ่งพรรคการเมืองที่ได้ไปแจ้งความจะต้องเข้าไปยื่นหลักฐานการสมัครยังอาคารกีฬาเวสน์ที่เป็นสถานที่รับสมัครให้ได้ และหาก กกต.ตรวจหลักฐานต่างๆ แล้วเสร็จ กกต.ก็จะพิจารณามีมติและจะแจ้งไปยัง 34 พรรคการเมือง รวมสื่อมวลชนให้ทราบถึงวัน เวลา และสถานที่ที่จะให้ทั้ง 34 พรรคมาจับสลากหมายเลขประจำพรรค ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นที่อาคารกีฬาเวสน์ หรือสถานที่รับสมัครใหม่ หาก กกต.มีการประกาศเปลี่ยนแปลงสถานที่รับสมัคร และอาจจะเกิดขึ้นหลังวันที่ 27 ธ.ค. ที่ กกต.กำหนดไว้แต่เดิมให้เป็นวันสุดท้ายของการสมัครในระบบบัญชีรายชื่อก็ได้ แต่ทั้งนี้พรรคที่ยื่นสมัครในระบบบัญชีรายชื่อจะต้องได้หมายเลขประจำพรรคก่อนการเปิดสมัครในระบบแบ่งเขตเลือกตั้ง ซึ่งเดิม กกต.ประกาศกำหนดให้มีการสมัครในระบบแบ่งเขตเลือกตั้งตั้งแต่วันที่ 28 ธ.ค. - 1 ม.ค. 2557
“ยืนยันว่าวันนี้จะไม่มีการจับสลากหมายเลขประจำพรรคเกิดขึ้นอย่างแน่นอนเพราะการตรวจสอบเอกสารทำได้ไม่ทัน” นายสมชัยกล่าว
ส่วนที่มีข้อกล่าวหาว่า กกต.ลักหลับรับสมัครเลือกตั้งตอน 03.00 น.นั้น นายสมชัยกล่าวว่า ยืนยันว่าที่มีพรรคการเมืองมาตั้งแต่เวลา 03.00 น. นั่นไม่เรียกว่าการสมัคร ที่ กกต.จัดให้ลงในเอกสารเป็นการลงเวลาว่าเดินทางมาถึงเท่านั้น การรับเอกสารต่างๆ ของเจ้าหน้าที่ไม่ขึ้นก่อนเวลา 08.30 น. และยอมรับว่าเจ้าหน้าที่ของ กกต. ขยัน โดยทางสำนักงานได้ให้เจ้าหน้าที่จำนวนหนึ่งไปสแตนบายด์ไว้ตั้งแต่เมื่อวานที่ผ่านมาเพื่อเป็นการยืนยันว่าในส่วนของกกต.มีความพร้อมที่จะดำเนินการรับสมัคร
“ไม่แปลกที่พรรคการเมืองเดินทางเข้าไปยังสถานที่รับสมัครได้ตอนตี 3 อาจจะถือเป็นการตื่นตัวของพรรคการเมืองที่อยากจะลงสมัครรับเลือกตั้งก็ได้ เหมือนกับคนอยากได้ไอโฟนใหม่ ยังยอมที่จะไปยืนจองเลย” นายสมชัยกล่าว
นายสมชัยกล่าวว่า ส่วนที่กล่าวหาว่า กกต.ไปดำเนินการรับสมัครตามโรงพัก ยืนยันว่าไม่ใช่ เพราะการสมัครต้องเป็นที่อาคารกีฬาเวสน์ ตามที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ที่สถานีตำรวจนั้น เป็นเพียงพรรคการเมืองไปแจ้งความเพื่อให้ได้หลักฐานว่าได้เดินทางมายังสถานที่รับสมัครก่อนเวลา 08.30 น. ซึ่ง กกต.จะได้นำหลักฐานดังกล่าวมาพิจารณาประกอบว่าพรรคการเมืองนั้นมีคุณสมบัติที่จะร่วมจับสลากหรือไม่
ด้านนายศุภชัยกล่าวว่า กกต.ทั้ง 5 คนเดินทางไปยังสถานที่รับสมัครตั้งแต่เวลา 06.00 น. แต่ไม่สามารถเข้าไปภายในได้ แม้จะพยายามหลายครั้งโดยให้เลขาธิการ กกต.ไปเจรจากับแกนนำผู้ชุมนุม แต่ก็ได้รับการยืนยันว่าไม่รับรองความปลอดภัยหาก กกต.จะเดินฝ่าฝูงชนเข้าไปยังสถานที่รับสมัคร
นายธีรวัฒน์ ธีระโรจน์วิทย์ กกต.ด้านกิจการพรรคการเมือง กล่าวว่า การที่พรรคการเมืองพยายามที่จะเดินทางมาสมัครก่อนเวลา 08.30 น.ก็ต้องเพราะต้องการได้เลขสวยเป็นหมายเลขประจำพรรค แต่สถานการณ์ที่ไม่ปกติ ทำให้ กกต.ต้องใช้วิธีบริหารการเลือกตั้ง เพื่อไม่ให้เกิดการเผชิญหน้ากันซึ่งวิธีที่ใช้ก็ถือว่าทำให้การเลือกตั้งเดินหน้าต่อไปได้ ซึ่งหลังจากนี้หากตลอดระยะเวลาของการเปิดรับสมัคร พรรคการเมืองไม่สามารถเข้าไปยื่นเอกสารสมัครได้ กกต.ก็ต้องประชุมและอาจจะมีการพิจารณาเปลี่ยนแปลงสถานที่รับสมัครใหม่ หรืออาจจะต้องขยายวันรับสมัครออกไป โดยกกต.จะพิจารณาสถารณ์เป็นวันๆ ไป
“สถานการณ์วิกฤตขนาดนี้ กกต.จะมายึดระเบียบให้พรรคการเมืองเดินฝ่าฝูงชนเข้าไปเพื่อจับสลากคงไม่ได้” นายธีระวิทย์กล่าว
เมื่อถามว่า การที่ กกต.ไม่สามารถเดินทางเข้าไปยังสถานที่รับสมัคร ได้มีการแจ้งความไว้ที่ สน.ดินแดง หรือไม่ว่า ถูกผู้ชุมนุมขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงาน นายศุภชัยกล่าวว่า การใดที่จะเป็นการยั่วยุฝูงชน กกต.พึงต้องระมัดระวัง ขณะที่นายสมชัยก็ได้เสริมว่า ทางสำนักงานจะเป็นผู้พิจารณาหากไม่ดำเนินการแจ้งความก็อาจจะมีประเด็นว่า กกต.ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ แต่ทั้งไม่จำเป็นต้องดำเนินในทันที ดังนั้นจึงขอรอดูสถานการณ์อีกระยะหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่าสำหรับพรรคการเมืองที่สามารถส่งผู้แทนซึ่งได้รับมอบอำนาจจากหัวหน้าพรรคเดินทางเข้าไปยื่นสมัครที่อาคารกีฬาเวสน์ 2 ได้นั้นพบใน 9 พรรคที่เดินทางไปถึงยังศูนย์เยาวชนไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง ตั้งแต่ก่อนเวลา 05.00 น. พรรคของประชาธิปไตยใหม่ ของนายสุรทิน พิจารณ์ พรรคประชาธิปไตยใหม่ เดินทางไปถึงเป็นพรรคแรกและลงเวลาที่มาถึงในเวลา 03.00 น. ตามมาด้วยนางอัญชลี นุสสุวรรณโณ จากพรรคชาติพัฒนา ลงเวลาที่มาถึงในเวลา 03.30 น. อย่างไรก็ตาม ทั้ง 9 พรรคแม้จะยื่นหลักฐานการรับสมัครแล้วแต่ยังไม่มีการลงนามรับรองความถูกต้องของเอกสารจาก กกต. จึงยังถือว่าการรับสมัครไม่สมบูรณ์ ขณะเดียวกันก็พบว่าใน 9 พรรคที่ยื่นเอกสารการสมัครแล้วนั้น มีเพียงพรรคเพื่อไทย และพรรคชาติไทยพัฒนาเท่านั้นที่ส่งผู้สมัครในระบบบัญชีรายชื่อครบทั้ง 125 คน โดยพรรคเพื่อไทยนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นผู้สมัครลำดับที่ 1 ตามมาด้วยนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นผู้สมัครลำดับที่ 2 นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ เป็นผู้สมัครลำดับที่ 3 ส่วนพรรคชาติไทยพัฒนานั้น มีนายบรรหาร ศิลปอาชา เป็นผู้สมัครลำดับที่ 1
ด้านนายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการกกต. กล่าวว่า สำหรับรายชื่อผู้สมัคร ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ ทั้ง 34 พรรค ที่มาสมัครเลือกตั้ง ตั้งแต่ช่วงเวลา 08.30 น. ในวันนี้ ทางกกต.ยังไม่สามารถเปิดเผยรายชื่อทั้งหมดได้ เนื่องจากขณะนี้ยังอยู่ระหว่างขั้นตอนการตรวจสอบความถูกต้อง ของเอกสาร หลักฐานและคุณสมบัติของผู้สมัคร ซึ่งกกต.ยังไม่ได้ลงนามเซ็นรับรองเอกสารรายชื่อดังกล่าว รวมทั้งยังต้องให้มีการจับสลากเลือกหมายเลขพรรคการเมืองให้เสร็จสิ้นเสียก่อน จึงจะสามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ เพราะหากการตรวจสอบรายชื่อของผู้สมัครผิดไปแม้ 1 คน จาก 125 คน กกต.ก็จะถือว่ามีความผิดตามกฎหมาย อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้กกต.ยังไม่มีคำสั่งเปลี่ยนแปลงสถานที่รับสมัคร ซึ่งยังคงเป็นสถานที่เดิมและกรอบเวลาเดิม