xs
xsm
sm
md
lg

ก่อนจะเลือกตั้ง ต้องขจัด “อำนาจการเมืองเบ็ดเสร็จ”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

รายงานพิเศษ

เมื่อผ่านหน่วยงานของทหารได้อ่านคำปฏิญาณของทหารว่า “ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และประชาชน” พวกเราอุ่นใจว่าทหารยืนอยู่เคียงข้างทั้งจะปกป้องชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และประชาชนให้มีความร่มเย็นผาสุกทั้งเวลาหลับและตื่น

แต่การที่ทหารใหญ่ออกมาแถลงต่อประชาชนเมื่อ 2-3 วันนั้น ทำให้ไม่แน่ใจว่า “คำปฏิญาณ” ที่สลักไว้ในแผ่นป้ายหินหน้าหน่วยงานของทหารทหารยังรักษาไว้อย่างมั่นคงหรือไม่

หรือมีแค่เพียงทหารใหญ่บางคนเท่านั้นที่ลืมตัวไปชั่วขณะ สำหรับผมยังมีความเชื่อมั่นว่าทหารก็คือทหารอาชีพทุกนาย ยังยืนหยัดในอุดมการณ์ ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และประชาชนอย่างมั่นคง

ปัญหาชาติบ้านเมืองในวันนี้ถูกพัฒนามาจากความขัดแย้งทางการเมืองที่ทหารแสดงท่าทีเป็นกลางปล่อยให้การเมืองแก้ปัญหาของการเมือง แต่บางครั้งทหารก็ล้มกระดานการเมืองไปเสียเลยเพื่อสร้างระเบียบ (รัฐธรรมนูญ) ของประเทศเสียใหม่ ดีบ้างไม่ดีบ้าง สุดท้ายฝ่ายการเมืองก็ชนะ

เพราะอ้างประชาธิปไตยเป็นของประชาชนดังเช่นในปี 2540 ฝ่ายทหารยอมให้การเมืองแก้ปัญหาโดยการเมืองจนได้รัฐธรรมนูญ 2540 เสร็จแล้วการเมืองปลอบใจประชาชนเจ้าของอำนาจอธิปไตยว่านี่คือ “รัฐธรรมนูญฉบับประชาชน” ต้องรักษาให้ยั้งยืนและตลอดไป

แต่ประชาชนไม่รู้ว่าประโยชน์สูงสุดของฝ่ายการเมืองซ่อนอยู่ในรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ในที่สุดก็ถูกฉีกโดยการปฏิวัติของทหาร เพราะนักการเมืองผู้เสียประโยชน์บางคนออกมาร้องว่าทำไมเขาต้องมาติดคุกประชาธิปไตย ถูกตัดสิทธิการเลือกตั้ง ทำให้เสียสิทธิเป็น ส.ส. เป็นรัฐมนตรีรวมทั้งตำแหน่งทางการเมืองถึง 5 ปี มันเป็นเพราะเสียงร้องของนักการเมืองผู้นั้นหรือไม่ ทหารจึงปฏิวัติ ยอมให้รัฐธรรมนูญ 2550 ออกมาใช้บังคับท่ามกลางเสียงเรียกร้องว่าต้องแก้ไข แต่ขอให้ประชาชนยอมๆ ไปก่อนเพราะเห็นว่ารัฐธรรมนูญนี้ให้ประโยชน์สูงสุดแก่ฝ่ายการเมืองอย่างไม่เคยมีมาก่อน

โดยรัฐธรรมนูญปี 2550 สร้างโครงสร้างการบริหารประเทศให้การเมืองเป็นศูนย์กลางอำนาจ ล้วง รื้อ ซื้อองค์กรอิสระ รวมทั้งวิญญาณนักกฎหมาย นักวิชาการ มีขายก็ซื้อหมดแล้ว ใช้เสียงข้างมากอ้างรัฏฐาธิปัตย์บังคับบัญชาเป็นสายตรง กระทรวง ทบวง กรม กองทัพ รวมไปถึงองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อย่างเบ็ดเสร็จ

ประชาชนเจ้าของอำนาจอธิปไตยถูกตัดแขนตัดมือที่คอยยื่นเข้ามามีส่วนร่วมในการตรวจสอบทางตรงทั้งหมดเมื่อการเมืองเดินอำนาจทางตรงย่อมเป็นประโยชน์แก่ข้าราชการประจำทุกฝ่ายกระจายอย่างทั่วถึง ถ้ามีปัญหาของหน่วยงานราชการใด การเมืองจะเป็นผู้เขาไปจัดการเคลียร์ปัญหาโดยตรง ไม่ต้องอาศัยราชการระดับสูงของหน่วยงานชั้นตรง เป็นผู้แก้ปัญหาทำให้ฝ่ายการเมืองครอบครองประโยชน์ชาติโดยไม่มีผู้ใดขัดขวาง เกิดการทุจริต การเลือกปฏิบัติ กระทำขัดรัฐธรรมนูญ และกฎหมาย อย่างไร้การตรวจสอบ

จากบทสรุปข้างต้น ผมใคร่ขอความคิดเห็นร่วมกันว่าเราจะปฏิรูปประเทศเราจะสร้างระเบียบโครงสร้างใหม่ให้เป็นระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขที่สมบูรณ์ได้อย่างไร

อุปสรรคใหญ่ของการปฏิรูปประเทศ คือ นักการเมือง และข้าราชการประจำนักการเมืองไม่ตรวจสอบข้าราชการประจำและข้าราชการประจำไม่ตรวจสอบการเมืองเพราะโครงสร้างประเทศตามรัฐธรรมนูญ 2550 เป็นเช่นนั้นซึ่งดีสูงสุดเอื้อประโยชน์สูงสุดให้อำนาจเบ็ดเสร็จแก่การเมือง และการเมืองเลือกได้ว่าจะให้หรือไม่ให้ประโยชน์ใดแก่ประชาชนพื้นที่ใดอย่างไม่เป็นธรรม ไร้คุณธรรม ผลประโยชน์ตกอยู่กับฝ่ายการเมือง ส่งผลให้ประชาชนยากจนประเทศชาติล้มละลายต่อไป

มวลมหาประชาชนจะหวังพึ่งข้าราชการระดับสูง ไม่ว่าตำรวจ ทหาร และข้าราชการ พลเรือนมาเข้าข้างคงยากเพราะข้าราชการระดับสูงพวกนั้นอยู่ในช่วงบั้นปลายของตำแหน่งประโยชน์ตนย่อมมาก่อนมวลมหาประชาชนต้องค้นหาข้าราชการอาชีพระดับรองๆ ลงไปมาช่วยคิดการปฏิรูปประเทศ ถ้าหากยังต้องอาศัยข้าราชการช่วยอยู่จึงจะเกิดผลสัมฤทธิ์

ข้อสำคัญที่ควรจะต้องเปลี่ยนแปลงก่อนก่อนการเลือกตั้งวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 คือ รัฐธรรมนูญมาตรา 101(3) ที่บัญญัติไว้ใจความว่าต้องเป็นสมาชิกพรรคการเมืองเท่านั้นจึงจะลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส. ได้เพราะเป็นจุดเริ่มต้นของการรวมศูนย์อำนาจและประโยชน์ชาติของนักธุรกิจการเมืองทำให้เกิดทุนสามานย์การเมือง

ทำให้พรรคการเมืองกล้าลงทุนซื้อรัฏฐาธิปัตย์ได้
กำลังโหลดความคิดเห็น