ป.ป.ช.ยันเร่งไต่สวนคดีถอดถอน 383 ส.ส.-ส.ว.คาด 23-24 ธ.ค.จะสามารถไต่สวนในส่วนของผู้ร้องได้ครบทั้งหมด และหลังจากปีใหม่จะเริ่มไต่สวนผู้ถูกร้อง ย้ำ ป.ป.ช.จะทำเรื่องนี้ให้เร็ว รับไม่ส่งผลกระทบหากมีการเลื่้อนเลือกตั้งออกไป ขณะเดียวกัน หาก ป.ป.ช.ชี้มูล ก่อนวันเลือกตั้ง นายกฯมีชื่ออยู่ใน 383 ส.ส.แล้วลงสมัคร ก็ช่วยไม่ได้ แนะต้องคิดกันให้ดีว่าจะเว้นวรรคหรือไม่ หรือจะไปตายเอาดาบหน้า
วันนี้ (19 ธ.ค.) นายวิชา มหาคุณ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึงความคืบหน้าในการไต่สวนคำร้องถอดถอนและการดำเนินคดีอาญากับสมาชิกรัฐสภา 383 คนที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่มา ส.ว.ว่า คาดว่าประมาณวันที่ 23-24 ธ.ค.จะสามารถไต่สวนในส่วนของผู้ร้องได้ครบทั้งหมด จากนั้นจะสรุปเพื่อดำเนินการขั้นตอนในส่วนของผู้ร้องให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ธ.ค.แล้วหลังปีใหม่จะเริ่มดำเนินการไต่สวนผู้ถูกร้อง จากนั้นจะสรุปขั้นตอนทั้งหมดของผู้ถูกร้องอีกครั้งเพื่อที่จะดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหาต่อไป อย่างไรก็ตาม ยืนยันอีกครั้งว่า ป.ป.ช.จะทำเรื่องนี้ให้เร็ว แต่คดีนี้ไม่สามารถสิ้นสุดภายในเดือน ธ.ค.อย่างที่มีการวิพากษ์วิจารณ์อย่างแน่นอน
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากวันเลือกตั้งต้องถูกเลื่อนออกไปจะส่งผลกระทบต่อการไต่สวนคดีดังกล่าวหรือไม่ นายวิชา กล่าวว่า ไม่ส่งผลกระทบใดๆ ถ้าเลื่อนวันเลือกตั้งออกไป ป.ป.ช.ก็จะได้มีการยืดหยุ่นบ้าง แต่คนที่จะรู้สึกถูกบีบหัวใจคือคนที่ต้องการให้เสร็จเร็ว ดังนั้น ไม่เสร็จคือไม่เสร็จ อย่างไรก็ตาม การไต่สวนของ ป.ป.ช.ไมได้กระทบกับอดีตส.ส.ที่เพิ่งพ้นจากตำแหน่งไปแล้ว โดยจะไปมีผลอีกครั้งหากวุฒิสภามีมติเห็นชอบให้ถอดถอนออกจากตำแหน่ง เพราะจะต้องรับโทษตัดสิทธิ์การเมืองเป็นเวลา 5 ปี
เมื่อถามว่า หาก ป.ป.ช.ชี้มูลความเรื่องนี้ก่อนวันที่ 2 ก.พ.2557 นายกฯในขณะที่รักษาการจะต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ นายวิชา กล่าวว่า กรณีที่เกี่ยวกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร คือ การดำรงตำแหน่ง ส.ส.แต่ที่เกี่ยวกับตำแหน่งนายกฯคือ การนำร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับที่มา ส.ว.ขึ้นทูลเกล้าฯ อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้คงไม่ได้ชี้มูลกันง่ายๆ
“ถ้าผู้ที่มีรายชื่อใน 383 คน จะยังคงลงรับสมัครเลือกตั้งในครั้งนี้ก็ช่วยไม่ได้ หากคิดว่าจะไปตายเอาดาบหน้าแล้วใครจะว่าอะไร คนที่จะลงต้องวัดดวงกันเอาเอง ช่วยไม่ได้ ต้องใคร่ครวญให้ดี ไม่ใช่หน้าที่ของ ป.ป.ช.ที่จะต้องไปบอกว่าสมควรจะลงรับสมัครเลือกตั้งหรือไม่ เป็นเรื่องของผู้ถูกร้องที่ต้องคิดเอาเองว่าสมควรจะเว้นวรรคตัวเองหรือไม่” นายวิชา กล่าว