ส.ว.กลุ่ม 40 ชี้สังคมหนุนปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง แต่ข้องใจเลื่อนเลือกตั้งได้หรือไม่ ยก ม. 108 แจงมีเหตุจำเป็นเลื่อนได้ สอดคล้องความเห็นกฤษฎีกาเคยเลื่อนสภาที่ปรึกษาฯ ฉะรัฐเสนอ พ.ร.ฎ.เลือกตั้งไม่ตามหลักนิติธรรมย่อมเลื่อนได้ อ้างไม่ได้เชื่อปิดเจตนา แนะบี้รัฐออก พ.ร.ฎ.เลื่อนเลือกตั้ง ให้ปฏิรูปก่อน
วันนี้ (17 ธ.ค.) นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ว.สรรหา และแกนนำกลุ่ม 40 ส.ว. กล่าวถึงการเลื่อนวันเลือกตั้งว่า ในขณะนี้สังคมไทยมีความเห็นร่วมกันอยู่แล้วว่า ควรต้องมีการปฏิรูปประเทศไทยก่อนที่จะมีการเลือกตั้ง แต่ติดอยู่ในกฎหมายว่าจะเลื่อนการเลือกตั้งออกไปได้หรือไม่ ใครจะเป็นผู้ดำเนินการ ซึ่งเป็นประเด็นเกี่ยวกับข้อกฎหมาย
นายไพบูลย์กล่าวว่า ดังนั้นในฐานะ ส.ว.จึงมีความเห็นว่า บทบัญญัติรัฐธรรมนูญ มาตรา 108 เป็นเพียงบทเร่งรัดให้ดำเนินการเลือกตั้งไม่เกิน 60 วัน แต่หากมีเหตุขัดข้องหรือเหตุจำเป็นก็เลื่อนวันเลือกตั้งได้ ซึ่งสอดคล้องกับความเห็นของกฤษฎีกาในเรื่องเสร็จที่ 590/2547 เรื่องการคัดเลือกคณะกรรมการสรรหาสมาชิกสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ส.ว.สรรหาขยายความว่า ครั้งนั้นคณะกรรมการกฤษฎีกาเห็นว่า เมื่อบทบัญญัติมาตรา 6 วรรคสี่ แห่งพระราชบัญญัติสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ได้กำหนดให้การดำเนินการเพื่อให้ได้มาซึ่งสมาชิกสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 90 วันนับแต่วันที่มีเหตุให้มีการเลือกสมาชิก บทบัญญัติดังกล่าวจึงเป็นเพียงบทเร่งรัดให้สำนักงานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติต้องดำเนินการให้ได้มาซึ่งสมาชิกสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเท่านั้น
“การเสนอพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้ง 2 กุมภาพันธ์ ของคณะรัฐมนตรี เป็นการเสนอโดยไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 3 วรรคสอง ซึ่งคณะรัฐมนตรีต้องดำเนินการตามหลักนิติธรรม ดังนั้น หากไม่เป็นตามหลักนิติธรรมก็ย่อมต้องยกเลิกหรือเลื่อนวันเลือกตั้งออกไปได้แต่คณะรัฐมนตรีกลับอ้างเหตุที่จะไม่ดำเนินการเลื่อนการเลือกตั้งออกไป เพื่อปกปิดเจตนาที่แท้จริงไว้” นายไพบูลย์กล่าว
นายไพบูลย์กล่าวสรุปว่า จึงขอประชาชนและผู้ที่เกี่ยวข้องให้เรียกร้องไปยังคณะรัฐมนตรีรักษาการให้ดำเนินการตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 187 ออกพระราชกฤษฎีกาเพื่อเลื่อนการเลือกตั้งออกไป ให้มีการปฏิรูปประเทศไทยก่อนมีการเลือกตั้ง ด้วยเหตุที่เป็นไปได้ทั้งข้อกฎหมาย และสอดคล้องกับความต้องการของสังคมไทยในขณะนี้ต่อไป