“ศรีสุวรรณ-วุฒิพร” ยื่น กสม.ขอให้ชงเรื่อง ปชช.ใช้สิทธิเรียกคืนอำนาจการปกครอง ตาม ม.3 และใช้สิทธิตั้งสภา ปชช.ตาม ม.7 ชอบด้วย รธน.หรือไม่ ต่อศาล รธน. ชี้ทั้งรัฐ-ฝ่ายชุมนุมอ้าง รธน.ทั้งคู่ ให้ศาลวินิจฉัยคือทางออก พร้อมขอให้สอบแก๊สน้ำตาละเมิดสิทธิ ปชช. ก่อนยื่นผู้ตรวจฯ ปม รธน.เช่นกัน แถมเหตุรัฐไม่รับอำนาจศาลอีกกระทง “หมอนิรันดร์” รับแนวโน้มส่อรุนแรง พรุ่งนี้เชิญฝ่ายรัฐแจงเหตุที่รามฯ ส่วนปม ม.3, 7 สัปดาห์หน้ารู้ผล
วันนี้ (11 ธ.ค.) นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย และนายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน นายวุฒิพร เดี่ยวพานิช นายกสมาคมสิทธิผู้บริโภคและเครือข่าย เข้ายื่นหนังสือต่อกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ผ่าน นพ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ กรรมการสิทธิขอให้พิจารณาส่งเรื่องความพร้อมเห็นต่อศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยว่าการที่มวลชนหรือปวงชนชาวไทยใช้สิทธิเรียกคืนอำนาจการปกครองแผ่นดินคืนกลับสู่อำนาจของประชาชนผู้เป็นเจ้าของอำนาจสูงสุดตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญมาตรา 3 นั้นชอบด้วยรัฐธรรมนูญหรือไม่ และการที่มวลชนหรือปวงชนชาวไทยใช้สิทธิประกาศจัดตั้งสภาประชาชน เพื่ออภิวัฒน์ให้เป็นตามมาตรา 7 ของรัฐธรรมนูญ ในยามที่ไม่มีรัฐบาล หรือมีแต่รัฐบาลรักษาการแล้วนั้น ชอบด้วยรัฐธรรมนูญหรือไม่
โดยนายศรีสุวรรณกล่าวว่า ขณะนี้ทางนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการกลุ่มประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์โดยมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือ กปปส. และรัฐบาลต่างก็อ้างว่าตนเองทำตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งทางสมาคมเห็นว่าไม่มีทางออกอื่นนอกจากต้องให้องค์กรที่มีอำนาจวินิจฉัยชี้ขาดอย่างศาลรัฐธรรมนูญเป็นผู้วินิจฉัย จึงขอให้กรรมการสิทธิใช้อำนาจตามรัฐธรรมนูญมาตรา 257 อนุ 2 ยื่นเรื่องพร้อมความเห็นไปยังศาลรัฐธรรมนูญโดยเร็ว
นอกจากนี้ ทางสมาคมสิทธิผู้บริโภคยังได้ยื่นขอให้กรรมการสิทธิตรวจสอบกรณีเจ้าหน้าที่การใช้แก๊สน้ำตาและสารสีม่วงผสมน้ำฉีดใส่ผู้ชุมนุม เนื่องจากพบว่าผู้ที่ได้รับผลกระทบดังกล่าวมีอาการเจ็บป่วยในหลายด้าน ซึ่งถือเป็นการละเมิดสิทธิของประชาชนที่ชุมนุมโดยสงบปราศจากอาวุธ
ด้าน นพ.นิรันดร์กล่าวว่า จากที่กรรมการสิทธิได้ติดตามและส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่สังเกตการณ์ชุมนุมเห็นว่าการชุมนุมยังมีแนวโน้มว่าอาจจะมีความรุนแรงเกิดขึ้นเหมือนที่เกิดขึ้นที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง แม้ว่าทั้งฝ่ายรัฐบาลและผู้ชุมนุมจะพยายามรักษากติกาก็ตาม ดังนั้น ในวันพรุ่งนี้ (12 ธ.ค.) เวลา 13.00 น. คณะอนุกรรมการด้านสิทธิพลเมืองและสิทธิการเมืองก็จะได้มีการประชุมกรณีความรุนแรงที่มหาวิทยาลัยรามคำแหงโดยจะเชิญผู้แทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สภาความมั่นคงแห่งชาติ และตัวแทนรัฐบาลมาชี้แจง
ส่วนกรณีความขัดแย้งการบังคับใช้รัฐธรรมนูญมาตรา 3 และมาตรา 7 นั้น ในวันที่ 13 ธ.ค. เวลา 10.00 น. ทางอนุกรรมการนจะได้มีการเชิญนักกฎหมาย นักสังคม มาหารือเพื่อจัดทำเป็นข้อเสนอของอนุกรรมการต่อที่ประชุม กสม. ที่คาดว่า กสม.จะได้มีการประชุมและสรุปว่าจะเสนอความเห็นต่อศาลรัฐธรรมนูญอย่างไรภายในสัปดาห์หน้า
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนั้นนายศรีสุวรรณ และคณะก็ได้เข้ายื่นเรื่องดังกล่าวต่อผู้ตรวจการแผ่นดินผ่านนายรักษเกชา แฉ่ฉาย โฆษกสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อขอให้ผู้ตรวจการฯ เสนอเรื่องพร้อมความเห็นให้ศาลปกครองพิจารณาวินิจฉัยโดยไม่ชักช้าว่า การที่นายกฯ นำร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่มีปัญหาขึ้นทูลเกล้าฯ และประธานสภา ประธานวุฒิสภาและรมว.มหาดไทย ยังไม่ยอมปฏิบัติตามคำวินิจฉัยดังกล่าว เป็นการกระทำที่ชอบด้วยกฎหมายและรัฐธรรมนูญหรือไม่
อีกทั้งการที่กลุ่ม กปปส.ใช้สิทธิพิทักษ์ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 69 การเรียกคืนอำนาจการปกครองกลับสู่อำนาจของประชาชนนั้น เป็นการประชาภิวัฒน์เพื่อปฏิรูปประเทศ ขจัดอันตรายคอร์รัปชัน และดำเนินการบ้านเมืองให้เกิดประโยชน์แท้จริงต่อทุกภาคส่วน ตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ มาตรา 3 และที่มีการประกาศจัดตั้งสภาประชาชน เพื่ออภิวัฒน์ให้รองรับหรือสอดคล้องเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 7 ยามที่ไม่มีรัฐบาลหรือรัฐบาลรักษาการแล้ว มีความชอบด้วยรัฐธรรมนูญหรือกฎหมายหรือไม่
