“องอาจ” ปูดรัฐบาลเตรียมแผนฉ้อฉลกับมวลชน กปปส. ส่งคนในเครือข่ายป่วนเมืองโยนผิดผู้ชุมนุม พร้อมใช้เล่ห์เชิญทูตเข้าทำเนียบฯ สังเกตการณ์ม็อบพรุ่งนี้ หวังใช้เป็นตัวประกันบีบผู้ชุมนุม สร้างความชอบธรรมให้ตัวเอง
วันนี้ (8 ธ.ค.) นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ประธาน ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการชุมนุมของกลุ่ม กปปส.ในวันจันทร์ 9 ธันวาคมนี้ว่า มีข่าวว่ารัฐบาลกำลังจะใช้งิธีการฉ้อฉลไม่เป็นไปตามระบอบประชาธิปไตยและการใช้สิทธิเสรีภาพของประชาชนตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ โดยเตรียมหลายวิธีการที่ไม่ถูกต้อง ไม่ชอบธรรม สร้างเงื่อนไขแล้วโยนบาปให้ผู้ชุมนุมทั้งการพยายามระดมมวลชนแฝงเข้าในกลุ่มผู้ชุมนุมเพื่อก่อให้เกิดพฤติกรรมทำลายภาพลักษณ์ของผู้ชุมนุม
โดยจะเห็นได้ว่าหลังจากแกนนำ กปปส.ประกาศเดินขบวนครั้งใหญ่ในวันจันทร์ที่ 9 ธันวาคมนี้ รัฐบาลไม่มีความพยายามที่จะสกัดกั้น แต่เปิดโอกาสให้มีการรวมตัวของกลุ่มบุคคลต่างๆ ในหลายสถานที่ในเขต กทม. เพื่อแฝงตัวในกลุ่มผู้ชุมนุมตั้งแต่ค่ำคืนวันนี้ไปจนถึงวันพรุ่งนี้ เห็นได้ชัดว่ารัฐบาลที่มีอำนาจรัฐในมือ สามารถระงับยับยั้งได้แต่ไม่ทำ ปล่อยให้มีการเคลื่อนไหวอย่างอิสระแต่ไปยับยั้งฝ่ายผู้ชุมนุมที่ต่อต้านรัฐบาล หากนายกฯ ยังหลิ่วตาข้างหนึ่งให้เครือข่ายอำนาจรัฐทั้งตำรวจและผู้สนับสนุนตัวเอง สร้างเงื่อนไขโยนบาปให้ผู้ชุมนุมนายกก็ต้องรับผิดชอบกับพฤติกรรมของตัวเองด้วย
นอกจากนี้ยังเห็นว่า รัฐบาลดำเนินการไม่ถูกต้องในการที่ให้ ศอ.รส.เชิญทูตประจำประเทศไทยทุกประเทศมาที่ทำเนียบรัฐบาลในเช้าวันจันทร์ที่ 9 ธ.ค. โดยอ้างว่าให้มาสังเกตการณ์การเตรียมการรับมือผู้ชุมนุม ทั้งๆ ที่ทราบอยู่แล้วว่าจะมีประชาชนจำนวนมากเดินทางไปยังทำเนียบรัฐบาลแต่รัฐบาลกลับยืนยันที่จะเชิญทูตมาทำเนียบรัฐบาลเป็นวิธีการที่ไม่เหมาะสมและไม่ถูกต้องเป็นการพยายามที่จะใช้เอกอัครราชทูตประเทศต่างๆ มาเป็นเครื่องมือสร้างความชอบธรรมให้รัฐบาลและเอาชีวิตและทรัพย์สินของทูตเจ้าหน้าที่มาสุ่มเสี่ยงกับสถานการณ์ภายในประเทศของไทย ทั้งๆ ที่รัฐบาลต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของคนเหล่านี้ จึงขอถามว่าหากเอกอัครราชทูตเหล่านี้ไม่สามารถเดินทางออกจากทำเนียบรัฐบาลที่ประชาชนล้อมไว้ได้ รัฐบาลจะรับผิดชอบ
อย่างไรก็ตาม ตนจึงเห็นว่ารัฐบาลไม่ควรยืมมือเอกอัครราชทูตประเทศต่างๆ มาใช้เป็นเครื่องมือสร้างความชอบธรรมให้รัฐบาล เพราะมีข่าวปรากฏจำนวนมากว่าสถานทูตบางประเทศมีท่าทีสนับสนุนการดำเนินการของรัฐบาลในครั้งนี้ ซึ่งอาจจะป็นเป้าหมายที่ก่อให้เกิดปัญหาต่อคนที่ถูกเชิญมา จึงอยากให้นายกทบทวนและหาทางระงับยับยั้งการเชิญเอกอัครราชทูตในเช้าวันจันทร์เพราะไม่เกิดผลดีต่อการแก้ปัญหาวิกฤตบ้านเมืองแต่อย่างใด
“ผมอยากให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ คำนึงว่าเป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศไทยและคนไทยทุกคน ไม่ใช่เป็นนายกฯ เฉพาะกลุ่มบุคคล หรือมวลชนคนเสื้อแดงที่สนับสนุนรัฐบาลเท่านั้น การดำเนินการจะต้องคำนึงถึงสิทธิเสรีภาพของประชาชนภายใต้บทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ หยุดการดำเนินการวิธีใต้ดิน และใช้วิจารณญาณในฐานะนายกฯ ที่จะหาทางดับไฟที่กำลังจะเกิดขึ้นให้ได้ มิเช่นนั้นท่านก็คือผู้ที่ต้องรับผิดชอบต่อวิกฤตที่กำลังเกิดขึ้นในบ้านเมืองของเรา”