ประธาน กมธ.ตำรวจสภาฯ เฉ่งตำรวจปทุมธานีทาสระบอบทักษิณ ละเมิดสิทธิเจ้าทุกข์ หลังถูกแดงถ่อยรุมทำร้ายระหว่างชุมนุมโค่นระบอบทักษิณ เตรียมเรียกร้องเวร พร้อมผู้กำกับตำรวจแจง ลั่นจะตามไล่จี้ให้ถึงที่สุด
วันนี้ (30 พ.ย.) นายสากล ม่วงศิริ ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มเสื้อแดงปทุมธานี ที่นำโดยโกตี๋ หรือนายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุ ทำร้ายที่กลุ่มผู้ชุมนุมต่อต้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม และโค่นล้มระบอบทักษิณ ที่หน้าห้างโลตัสตรงข้ามกับศาลากลางปทุมธานี โดยมีนายศุภสวัสดิ์ พันธุ์โภคา อายุ 35 ปี ถูกของแข็งฟาดศีรษะแตกยาว 10 ซม. และนายวิชาญ ชาญอุตสาห์ อายุ 54 ปี คิ้วขาวแตก รถยนต์กะบะฟอร์ดถูกทุบกระจกแตก และถูกฟันจากของมีคมเสียหายตกข้างทางว่า ตนได้ติดตามเรื่องนี้เป็นพิเศษ เพราะเห็นว่าการชุมนุมแสดงออกความเห็นทางการเมืองสามารถทำได้ตามกรอบรัฐธรรมนูญ แต่ไม่ใช่การใช้กำลังเข้าประทุษร้ายร่างกายและทรัพย์สิน ซึ่งพฤติกรรมของกลุ่มเสื้อแดงปทุมธานีเข้าข่ายอันธพาลหลายครั้งแล้ว แต่ที่น่าเสียใจคือ ทราบจากฝ่ายผู้เสียหายที่บาดเจ็บว่า ตำรวจเจ้าของสำนวน รับแจ้งความแล้ว แต่กลับละเมิดสิทธิโดยไม่ให้เจ้าทุกข์อ่านทวนบันทึกประจำวัน ซ้ำยังไม่ให้คัดสำเนาบันทึกประจำวันไว้เพื่อเป็นหลักฐานในการต่อสู้คดีในทางแพ่งอีกด้วย เพราะกรณีนี้มีทรัพย์สินเสียหายหลายรายการทั้งรถยนต์ โทรศัพท์มือถือ และทราบว่าทางเจ้าทุกข์จะนำทนายความเข้าแจ้งความอีกครั้ง
“จึงขอเตือนตำรวจว่า ควรปรับพฤติกรรมให้เข้ากับยุคสมัยได้แล้ว เมื่อเป็นเจ้าหน้าที่เป็นข้าราชการ กินเงินเดือนจากภาษีประชาชน ต้องเป็นต้นธารที่ดีของความยุติธรรม ก็ควรทำตรงไปตรงมาตามสิทธิของผู้เสียหายที่กฎหมายกำหนด อาจผิดเข้าข่าย ม.157ละเว้นอีกคดี”
อย่างไรก็คาม ตนจะติดตามเรื่องนี้ให้ถึงที่สุด โดยเฉพาะจะเชิญร้อยเวรเจ้าของคดีกับผู้กำกับ สภ.อ.เข้าชี้แจงต่อกรรมาธิการแน่ ทั้งนี้เพื่อองค์กรตำรวจเองที่ต้องยอมรับว่ามีภาพลักษณ์ที่ไม่ค่อยดีในสายตาของประชาชนในช่วงนี้
วันนี้ (30 พ.ย.) นายสากล ม่วงศิริ ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มเสื้อแดงปทุมธานี ที่นำโดยโกตี๋ หรือนายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุ ทำร้ายที่กลุ่มผู้ชุมนุมต่อต้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม และโค่นล้มระบอบทักษิณ ที่หน้าห้างโลตัสตรงข้ามกับศาลากลางปทุมธานี โดยมีนายศุภสวัสดิ์ พันธุ์โภคา อายุ 35 ปี ถูกของแข็งฟาดศีรษะแตกยาว 10 ซม. และนายวิชาญ ชาญอุตสาห์ อายุ 54 ปี คิ้วขาวแตก รถยนต์กะบะฟอร์ดถูกทุบกระจกแตก และถูกฟันจากของมีคมเสียหายตกข้างทางว่า ตนได้ติดตามเรื่องนี้เป็นพิเศษ เพราะเห็นว่าการชุมนุมแสดงออกความเห็นทางการเมืองสามารถทำได้ตามกรอบรัฐธรรมนูญ แต่ไม่ใช่การใช้กำลังเข้าประทุษร้ายร่างกายและทรัพย์สิน ซึ่งพฤติกรรมของกลุ่มเสื้อแดงปทุมธานีเข้าข่ายอันธพาลหลายครั้งแล้ว แต่ที่น่าเสียใจคือ ทราบจากฝ่ายผู้เสียหายที่บาดเจ็บว่า ตำรวจเจ้าของสำนวน รับแจ้งความแล้ว แต่กลับละเมิดสิทธิโดยไม่ให้เจ้าทุกข์อ่านทวนบันทึกประจำวัน ซ้ำยังไม่ให้คัดสำเนาบันทึกประจำวันไว้เพื่อเป็นหลักฐานในการต่อสู้คดีในทางแพ่งอีกด้วย เพราะกรณีนี้มีทรัพย์สินเสียหายหลายรายการทั้งรถยนต์ โทรศัพท์มือถือ และทราบว่าทางเจ้าทุกข์จะนำทนายความเข้าแจ้งความอีกครั้ง
“จึงขอเตือนตำรวจว่า ควรปรับพฤติกรรมให้เข้ากับยุคสมัยได้แล้ว เมื่อเป็นเจ้าหน้าที่เป็นข้าราชการ กินเงินเดือนจากภาษีประชาชน ต้องเป็นต้นธารที่ดีของความยุติธรรม ก็ควรทำตรงไปตรงมาตามสิทธิของผู้เสียหายที่กฎหมายกำหนด อาจผิดเข้าข่าย ม.157ละเว้นอีกคดี”
อย่างไรก็คาม ตนจะติดตามเรื่องนี้ให้ถึงที่สุด โดยเฉพาะจะเชิญร้อยเวรเจ้าของคดีกับผู้กำกับ สภ.อ.เข้าชี้แจงต่อกรรมาธิการแน่ ทั้งนี้เพื่อองค์กรตำรวจเองที่ต้องยอมรับว่ามีภาพลักษณ์ที่ไม่ค่อยดีในสายตาของประชาชนในช่วงนี้