“คุณชาย” เชื่อหลังฟังคำวินิจฉัยศาล รธน.สถานการณ์ไม่เลวลง

ผู้ว่าฯ กทม.สั่งยกร่างแผนเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์ชุมนุม ชี้คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญเป็นธรรมทุกฝ่ายสถานการณ์คงไม่ไปในทางไม่ดี แต่ยังติดตามใกล้ชิด ห่วงพยาบาลเข้าพื้นที่ไม่ได้ เชื่อ บช.น.ดูแลเหตุร้ายได้ ดูก่อนเจรจาม็อบเองหรือไม่



วันนี้ (20 พ.ย.) ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เมื่อเวลา 15.40 น. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมเตรียมความพร้อมหน่วยงานของ กทม. เพื่อรับสถานการณ์การชุมนุมว่า ในที่ประชุมตนได้สั่งการให้หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องดำเนินการยกร่างแผนการเตรียมความพร้อมในการรับมือสถานการณ์การชุมนุมภายหลังการตัดสินคดีของศาลรัฐธรรมนูญที่อาจจะก่อให้เกิดความรุนแรง แต่ขณะนี้ปรากฏว่าคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญออกมาในลักษณะที่เป็นธรรมกับทุกฝ่าย ซึ่งคาดว่าสถานการณ์คงไม่เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ไม่ดี แต่ก็จะต้องติดตามสถานการณ์การชุมนุมของทั้งฝ่ายสนับสนุนรัฐบาล และฝ่ายต่อต้านรัฐบาลอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะกรณีการชุมนุมที่ราชดำเนินที่จะมีการยกระดับการชุมนุมในวันที่ 24 พ.ย.นี้ ซึ่งจากการคาดการณ์ของแกนนำว่าจะมีผู้มาชุมนุม 1 ล้านคน โดยต้องดูอีกทีว่าจะมีผู้ร่วมชุมนุมจำนวนเท่าไหร่ ทั้งนี้ตนเป็นห่วงการเข้าถึงพื้นที่ของเจ้าหน้าที่ กทม.รักษาพยาบาลในจุดที่มีผู้ชุมนุมเป็นจำนวนมาก

อย่างไรก็ตาม จากกรณีที่ พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ระบุว่าตั้งแต่คืนวันที่ 19-24 พ.ย.นี้จะมีผู้ไม่ประสงค์ดีมีแผนการที่จะก่อเหตุวินาศกรรมอย่างรุนแรงเพื่อสร้างสถานการณ์ไปสู่ความรุนแรงในระหว่างการชุมนุมนั้น ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์กล่าวว่า ตนก็รับฟัง แต่เชื่อว่ากองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) สามารถดูแลสถานการณ์ไม่ให้เกิดเหตุร้ายแรงได้ ส่วนกทม. ก็พร้อมให้ความร่วมมือกับ บช.น. ซึ่งที่ผ่านมา บช.น.ที่การตั้งจุดตรวจในพื้นที่ พ.ร.บ.ความมั่นคง 19 จุด โดยประสานให้ กทม. ส่งเจ้าหน้าที่เทศกิจช่วยงานจุดละ 2 นาย ขณะเดียวกัน กทม.ก็พร้อมอำนวยความสะดวกแก่ทุกฝ่าย ส่วนการชุมนุมจะยืดเยื้อจนกระทบต่อการจัดงานเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ในวันที่ 5 ธ.ค.หรือไม่นั้น ตนเชื่อว่าทุกคนจะมีความตระหนักและรับผิดชอบร่วมกัน ส่วนตนจะเป็นผู้เข้าเจรจาด้วยตนเองหรือไม่นั้น ก็จะพิจารณาอีกที ซึ่งเมื่อครั้งที่มีการชุมนุมเมื่อปี 53 ก็ยังผ่านมาได้ ครั้งนี้ก็คงไม่ยาก