ส.ส.ระยอง ปชป.เย้ยแกนนำเสื้อแดงหมดความน่าเชื่อ หลังดิสเครดิตศาลรัฐธรรมนูญ วอนคนไทยเคารพกระบวนการยุติธรรม อีกด้านเหน็บรัฐบาลดื้อจำนำข้าวไม่สนไอเอ็มเอฟ ถามกลับทำไมรัฐบาลไม่ช่วยพยุงราคายาง มันสำปะหลัง
วันนี้ (15 พ.ย.) ที่เวทีประชาชนต้านกฎหมายนิรโทษฯ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถ.ราชดำเนิน นายสาธิต ปิตุเตชะ ส.ส.ระยอง พรรคประชาธิปัตย์ ปราศรัยต่อประชาชนถึงสถานการณ์ทางการเมืองที่ศาลรัฐธรรมนูญเตรียมที่จะตัดในคดีที่การแก้ไขรัฐธรรมนูญในประเด็นที่มาของสมาชิกวุฒิสภา ในวันที่ 20 พฤศจิกายน 2556 ว่า จากปฏิกิริยาของแกนนำคนเสื้อแดง ทั้ง นายจตุพร พรหมพันธุ์ ที่ปราศรัยดักคอถึงผลการตัดคดีนี้ รวมทั้ง นายวรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย ที่ออกมาให้ข่าวว่า มีตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ 2 คน ไปหา นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีต ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ นั้น เป็นคำพูดที่เชื่อถือไม่ได้ เพราะทั้งสองคนมีพฤติกรรมโกหกประชาชน โดยเฉพาะในเรื่องของกฎหมายนิรโทษกรรม เพราะในวาระแรก บรรดาแกนนำคนเสื้อแดงต่างก็อ้างว่า เป็นกฎหมายที่ล้างผิดผู้ชุมนุมเท่านั้น แต่ในวาระ 2 ในขั้นกรรมาธิการนั้น ตนเชื่อว่ามีการเตี๊ยมกัน โดยตอนแรกบอกไม่เห็นด้วยที่จะล้างผิดให้กับคนที่ทุจริต แต่สุดท้ายกลับมติเห็นด้วย ดังนั้น คนพวกนี้หมดความน่าเชื่อถือไปนานแล้ว
ที่สำคัญ การแก้ไขรัฐธรรมนูญในประเด็นที่มาของ ส.ว.นั้น มีการทำผิดกฎหมายหลายขั้นตอน ที่สำคัญมี 3 ประการ คือ มีแก้กฎหมายเกินหลักการ เดิมให้ ส.ว.เลือกตั้งทั้งหมด แต่กลับตัดสิทธิ์ไม่ให้แต่งตั้งองค์กรอิสระ ต่อมา กระบวนการแก้ไขไม่ชอบ เพราะ ส.ส.ที่ไม่เห็นด้วยกับ กมธ.เสียงส่วนใหญ่ รัฐธรรมนูญให้สิทธิ์เต็มที่จะแปรญัตติ แต่ ส.ส.เสียงข้างมากไม่เคยฟังข้อท้วงติงข้างน้อย กลับใช้เสียงส่วนใหญ่ลงมติปิดอภิปราย ซึ่งเป็นการขัดรัฐธรรมนูญ และสุดท้ายตอนลงมติร่างดังกล่าว ปรากฏว่า เป็นความโชคดีที่แอบถ่ายตอน ส.ส.กดบัตรแทนกัน เป็นการขัด รธน.เพราะ ส.ส.หนึ่งคนมีเพียงหนึ่งเสียงเท่านั้น ถือเป็นการสับปลับ ไม่รับผิดชอบ เป็นการโกงเสียงของประชาชนและ เป็นความเศร้าของเสียงส่วนใหญ่ ดังนั้น จึงมีคนรวบรวมหลักฐานความผิดให้ศาล รธน.ซึ่งศาลก็รับร้องโดยชี้ว่ามีมูลความผิดที่สามารถตัดสินได้ในวันที่ 20 พ.ย.ดังนั้น ขอให้ประชาชนอย่าสนใจคำพูดของแกนนำเสื้อแดง เพราะศาลจะตัดสินอย่างไรประชาชนก็ควรเคารพในกระบวนการยุติธรรม เพราะมีคำขู่ว่าถ้าศาล รธน.มีคำพิพากษาที่ให้โทษต่อแกนนำเสื้อแดง ก็จะมีการล้างผลาญคนทั้งประเทศ ถือเป็นพฤติกรรมของคนที่เห็นแก่ตัว ซึ่งคนพฤติกรรมเช่นไม่เหมาะสมที่บริหารประเทศ
นายสาธิต ยังปราศรัยต่อไปอีกว่า องค์การกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ออกมาทักท้วงนโยบายจำนำข้าว ที่ส่งผลทำให้ประเทศไทยมีหนี้สินสาธารณะเพิ่มขึ้น แต่คนในรัฐบาลนี้กลับไม่สนใจ และตอบโต้ไอเอ็มเอฟว่า ไม่ได้ศึกษานโยบายนี้ เพราะนโยบายนี้เป็นการช่วยเหลือชาวนา ซึ่งตนสงสัยว่า แล้วทำไมรัฐบาลไม่ช่วยพยุงราคายาง มันสำปะหลัง และพืชผลการเกษตรอื่นๆ ถือเป็นการดันทุรัง และนำไปสู่ความฉิบหายของประเทศไทยในรัฐบาลนี้ โดยขณะนี้ไทยหมดความน่าเชื่อจากต่างประเทศ ดังนั้น ตนขอกราบคารวะคนที่นี้และผู้ที่มีจุดมุ่งหมายเดียวกัน และร่วมพลังประชาชนในต่อสู้เพื่อขับไล่คนชั่วต่อไป
