ที่ประชุมวิปวุฒิสภา มีมติพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม จันทร์หน้าเหมือนเดิม หลัง ส.ว.บางส่วนเสนอให้เลื่อนเร็วขึ้นเป็นวันศุกร์นี้รับลูกรัฐบาล “คำนูณ” ตำหนิ “นิคม” ให้ความเห็นชี้นำ อีกด้านเผยประชาชนตื่นตัวทั่วประเทศ ไม่เชื่อใจรัฐบาลและรัฐสภาแล้ว เตือนถ้าอยากจบเรื่องนี้ต้องให้สัญญา 180 วันไม่หยิบขึ้นมาอีก รวมทั้งร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง ทั้ง 6 ร่าง ต้องรีบดำเนินการให้เป็นรูปธรรม
วันนี้ (6 พ.ย.) ที่รัฐสภา เมื่อเวลา 13.00 น.ได้มีการประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการวุฒิสภา หรือวิปวุฒิสภา มีนายนิคม ไวยรัชพานิช ประธานวุฒิสภา และประธานวิปวุฒิสภา เป็นประธานการประชุม โดยมีการหยิบยกวาระการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ขึ้นมาหารือ โดยนายนิคมได้ขอความเห็นจากที่ประชุม เนื่องจากมี ส.ว.บางส่วนเสนอให้เลื่อนการพิจารณาวาระดังกล่าว จากวันที่ 11 พ.ย.มาเป็นวันที่ 8 พ.ย.ทำให้กลุ่ม 40 ส.ว.อาทิ นายประสาร มฤคพิทักษ์ นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา ได้รุมตำหนิบทบาทการทำหน้าที่ของนายนิคมว่า เหมือนรับลูกมาจากรัฐบาล และไม่เห็นด้วยที่จะให้เลื่อนการพิจารณามาเป็นวันที่ 8 พ.ย.เนื่องจากยังมี ส.ว.ติดดูงานที่ต่างประเทศ และ ส.ว.ส่วนใหญ่รับทราบแล้วว่าจะมีการพิจารณาในวันที่ 11 พ.ย.ไม่ทราบว่านายนิคมใช้อำนาจอะไรมาตัดสินใจเอาเอง
ด้านนางนฤมล ศิริวัฒน์ ส.ว.อุตรดิตถ์ กล่าวตอบโต้ว่า เรื่องนี้เป็นความเห็นของตนและเพื่อน ส.ว.อีก 7-8 คนที่ได้หารือกัน เพราะมองเห็นว่าหากปล่อยให้สถานการณ์ยืดเยื้อต่อไป อาจส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ประเทศ โดยเฉพาะผลกระทบต่อเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว ต้องยอมรับว่าการปลุกกระแสต่อต้านในขณะนี้ มีกลุ่มคนได้ประโยชน์จากการชุมนุมครั้งนี้ด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในที่ประชุมวิปวุฒิสภาได้เกิดการถกเถียงกันอย่างหนักระหว่างกลุ่ม 40 ส.ว.กับกลุ่ม ส.ว.ที่เห็นควรเลื่อนการพิจารณามาให้เร็วขึ้น เพื่อเป็นการลดดีกรีสถานการณ์การเมืองขณะนี้ โดยนายนิคมแถลงว่า วิปวุฒิสภามีมติจะไม่เลื่อนวาระร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม มาพิจารณาในวันที่ 8 พ.ย.ดังนั้นยังคงเป็นไปตามกำหนดการเดิมคือ จะพิจารณาวันที่ 11 พ.ย.และส่วนตัวยืนยันว่าจะยับยั้งร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ ทำให้นายคำนูณประท้วงว่า นั่นเป็นเรื่องส่วนตัวของนายนิคม หากจะให้ความเห็นก็ควรไปพูดนอกห้องนี้ ไม่เช่นนั้นตนจะขอใช้เวทีนี้พูดความเห็นส่วนตัวบ้าง
นายคำนูณ ในฐานะรองเลขานุการวิปวุฒิสภา กล่าวภายหลังการประชุมว่า ที่ประชุมมีมติให้พิจารณาวันที่ 11 พ.ย.โดยเบื้องต้นประธานจะขอให้พิจารณาให้เสร็จภายในวันเดียว โดยที่ประชุมได้เชิญนายวรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย ผู้เสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เข้าชี้แจง แต่ไม่มีประโยชน์เท่าไหร่ รวมถึงเชิญตัวแทนคณะกรรมการกฤษฎีกาเข้าชี้แจง โดย ส.ว.ได้สอบถามถึงมาตรา 3 ว่าครอบคลุมขอบเขตการนิรโทษกรรมมากน้อยเพียงใด แต่ก็ไม่ได้คำตอบที่คลายกังวล
เมื่อถามว่าที่ประชุมวิปวุฒิฯ มีมติคว่ำร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ใช่หรือไม่ นายคำนูณตอบว่า เป็นเรื่องที่ ส.ว.แต่ละท่านจะใช้ดุลยพินิจ เมื่อถามว่าหลังวุฒิสภายับยั้งร่างแล้ว รัฐบาลควรทำอย่างไรเพื่อเป็นทางออกในเรื่องนี้ นายคำนูณตอบว่า ขณะนี้ประชาชนตื่นตัวทั่วประเทศ ไม่เชื่อใจรัฐบาลและรัฐสภาแล้ว ดังนั้นถ้าอยากให้เรื่องนี้จบ รัฐบาลและพรรคเพื่อไทย ควรต้องให้สัญญาประชาชนให้ชัดเจนว่าเมื่อครบ 180 วัน จะไม่หยิบยกขึ้นมาพิจารณาอีก รวมถึงร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง ทั้ง 6 ร่าง เพราะหากยังคาอยู่ก็ยังสามารถหยิบยกขึ้นมาพิจารณาอีกได้ แต่ล่าสุดเห็นว่าวิปรัฐบาลประกาศถอนร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม และร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง ทั้ง 6 ฉบับแล้ว ซึ่งตนเห็นว่าควรรีบดำเนินการให้เป็นรูปธรรม เพื่อสร้างความมั่นใจให้ประชาชนได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งก็ยังดีกว่าไม่ทำอะไรเลย
ส่วนข้อเสนอของนายอลงกรณ์ พลบุตร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ที่ให้วุฒิสภารับหลักการแล้วแก้ไขให้กลับไปยืนตามร่างเดิมของนายวรชัย นายคำนูณ ตอบว่า เป็นไปไม่ได้โดยสิ้นเชิง เพราะตอนนี้คนไม่เชื่อใจรัฐบาลแล้ว หมดความชอบธรรม
