โฆษกศาลรัฐธรรมนูญ เผยยังไม่มีคู่กรณีคดีรื้อ รธน.ที่มา ส.ว.แจ้งขอรับการไต่สวน ศาลฯ เตรียมเดินหน้าดำเนินการฝ่ายเดียว 8 พ.ย.
วันนี้ (30 ต.ค.) นายพิมล ธรรมพิทักษ์พงษ์ หัวหน้าคณะโฆษกศาลรัฐธรรมนูญ กล่าวว่าในการประชุมคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญวันนี้ ที่ประชุมไม่มีวาระการพิจารณาเกี่ยวกับคำร้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญในประเด็นที่มา ส.ว. แต่เป็นการอภิปรายในเรื่องทั่วไป เพราะหลังจากเมื่อวันที่ 24 ต.ค. ที่ศาลฯ แจ้งกำหนดนัดไต่สวนคู่กรณีในคดีแก้ไขรัฐธรรมนูญที่มา ส.ว.ในวันที่ 8 พ.ย.ไปให้คู่กรณีทราบแล้ว ก็ได้ให้เวลาคู่กรณีส่งบันทึกถ้อยคำยืนยันข้อเท็จจริง ความเห็น รวมถึงหากประสงค์จะเข้ารับการไต่สวนด้วยตนเอง หรือต้องการนำพยานบุคคลใดเข้าไต่สวน ก็ให้แจ้งกลับมายังสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญภายในวันนี้ (31 ต.ค.) ซึ่งจนถึงขณะนี้ยังไม่มีคู่กรณีคนใดส่งบันทึกถ้อยคำ หรือแจ้งขอนำพยานเข้ารับการไต่สวนแต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากฝ่ายผู้ถูกร้องคือประธานสภาผู้แทนราษฎร ประธานวุฒิสภา และสมาชิกรัฐสภารวม 312 คน ไม่ส่งบันทึกถ้อยคำ และไม่ต้องการเข้ารับการไต่สวน จะทำอย่างไร นายพิมลกล่าวว่า ศาลได้แจ้งให้คู่กรณีทราบแล้วว่าจะมีการไต่สวน ซึ่งหากฝ่ายใดไม่ประสงค์เข้ารับการไต่สวนก็ถือว่าไม่ติดใจ ศาลก็จะไต่สวนฝ่ายเดียว
แหล่งข่าวเปิดเผยว่า ในการไต่สวนนั้น หากก่อนวันที่ 8 พ.ย. คู่กรณียื่นบัญชีพยานมาคณะตุลาการก็จะพิจารณาว่ามีจำนวนน้อยเพียงใด หากมีจำนวนมากก็จะเรียกเข้าไต่สวนเฉพาะที่คณะตุลาการเห็นว่าเกี่ยวข้องกับคำร้อง และมีข้อสงสัย แต่เบื้องต้นในวันไต่สวน จะไต่สวนฝ่ายผู้ร้อง และผู้ถูกร้อง โดยแบ่งเป็นช่วงเช้าและบ่าย สำหรับการที่ผู้ถูกร้องยังไม่ส่งบัญชีพยานมา ทางศาลจะไม่มีการประกาศหรือออกหนังสือแจ้งเตือนใด แม้ว่าจะครบกำหนดการส่งบัญชีพยานในวันพรุ่งนี้ (31 ต.ค.) โดยทุกอย่างจะเป็นไปตามนัดในวันที่ 8 พ.ย.