เครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย ยืนยันกรณีนักศึกษาอาชีวะปิดสี่แยกอุรุพงษ์ไม่ได้มีความแตกแยกกัน ชี้เพียงแค่อัดอั้นตันใจ ลั่นหากตำรวจออกหมายจับ 8 ผู้ต้องหาว่าไปตามกฎหมาย พร้อมสู้คดี
วันนี้ (28 ต.ค.) ที่สี่แยกอุรุพงษ์ เครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) ซึ่งปักหลักชุมนุมเป็นวันที่ 19 นั้น เมื่อเวลา 16.00 น.นายอุทัย ยอดมณี ผู้ประสานงาน คปท.แถลงข่าวประจำวันถึงกรณีที่กลุ่มนักศึกษาอาชีวะกว่า 200 คน รวมตัวกันปิดการจราจรสี่แยกอุรุพงษ์ พร้อมปลดรูปภาพของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่บริเวณตู้ควบคุมสัญญาณจราจรเมื่อวานนี้ (27 ต.ค.) ว่า กลุ่มนักศึกษาอาชีวะมีความอัดอั้นตันใจ จึงออกมารวมตัวแสดงพลัง เพื่อให้เห็นถึงความไม่พอใจกับการบริหารงานของรัฐบาลที่ล้มเหลวมาโดยตลอด
นายอุทัย กล่าวต่อว่า คปท.ไม่ได้มีการแตกแยกกับกลุ่มนักศึกษาอาชีวะแต่อย่างใด ขณะเดียวกันพร้อมที่จะเดินหน้าคัดค้านกฎหมายนิรโทษกรรม และโค่นล้มระบอบทักษิณ รวมทั้งยืนยันว่าจะปักหลักชุมนุมอยู่ที่บริเวณแยกอุรุพงษ์อย่างสงบ สันติ ปราศจากอาวุธ นอกจากนี้ คปท.ยังได้รับการตอบรับจากเครือข่ายในแต่ละภาคส่วนเข้ามาร่วมสนับสนุนการชุมนุม
ส่วนกรณีที่ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่าพนักงานสอบสวนได้ขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ต้องหา 8 รายที่ปิดการจราจรแยกอุรุพงษ์นั้น เบื้องต้นยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นนักศึกษาอาชีวะทั้งหมดหรือไม่ นอกจากนี้ ยังยืนยันจุดยืนเดิม คือการปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างถึงที่สุด ยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตย และเดินหน้าปฏิรูปประเทศอย่างเต็มที่ หากร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมผ่านวาระที่ 3 จะประกาศยกระดับการชุมนุมทันที
ขณะที่ นายนิติธร ล้ำเหลือ ที่ปรึกษา คปท.ระบุว่า ทราบว่าเป็นคำสั่งของ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สั่งการไปยังกองบัญชาการตำรวจนครบาล ให้ตั้งพนักงานสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับแกนนำ ข้อหากีดขวางการจราจรตาม พ.ร.บ.จราจร ซึ่งหากมีการออกหมายจับมา ก็ว่ากันไปตามกระบวนการทางกฎหมาย เราพร้อมที่จะสู้คดี พร้อมที่จะชี้แจง และเรายืนยันว่าเราใช้เสรีภาพในการชุมนุมตามรัฐธรรมนูญ
