เลขาฯ สมช.เชื่อรำลึก 9 ปี ตากใบไม่น่ามีปัญหา เผยยังไม่ลงตัววันคุยบีอาร์เอ็น ย้ำใช้ชุดเดิม รอดูท่าที “สุริยะใส” นัดคุยพวกต้านรัฐ 27 ต.ค. แต่ยังไม่ประเมินถ้า “นช.แม้ว” ได้เงินคืนจะรุนแรงหรือไม่
วันนี้ (25 ต.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 10.30 น. พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวถึงการรับมือเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ในช่วงครบรอบ 9 ปี เหตุการณ์สลายการชุมนุมหน้า สภ.ตากใบ จ.นราธิวาสว่า จากการเคลื่อนไหวของประชาชนในกรณีตากใบ กลุ่มนักศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (PNYS) ได้มีการให้กลุ่มนักศึกษาที่ยังศึกษาอยู่จัดกิจกรรม โดยวันนี้ (25 ต.ค.) มีกิจกรรมรำลึกที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ฝ่ายเจ้าหน้าที่ได้มีการติดตามอย่างใกล้ชิด และทำความเข้าใจกัน คิดว่าไม่น่าเป็นปัญหาแต่อย่างใด เพราะกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์จะเป็นของกลุ่มนักศึกษาและภาคประชาสังคม
พล.ท.ภราดรกล่าวว่า สำหรับมาตราการรักษาความปลอดภัยในช่วงครบรอบเหตุการณ์ตากใบนั้น มีการวางกำลังในพื้นที่ที่ล่อแหลม โดยเฉพาะ อ.ตากใบ รวมถึงพื้นที่ที่ประชาชนออกมารวมตัวรำลึกด้วย เพราะในอดีตที่ที่ผ่านมาจะมีปัญหาเหตุการณ์เกิดขึ้นนพื้นที่เหล่านั้น แต่ตอนนี้สัญญาณที่จะเป็นปัญหาค่อนข้างเบาบางลง เพราะฝ่ายปฏิบัติการค่อนข้างถูกเจ้าหน้าที่ดำเนินการปิดล้อมตรวจค้นและจับกุมได้ ทำให้การเคลื่อนไหวของกองกำลังที่จะปฏิบัติการมีปัญหาและน้อยลง แนวโน้มสถานการณ์อยู่ในเกณฑ์ที่เราควบคุมได้ เพราะมีการวางมาตรการไว้อย่างเข้มงวด
พล.ท.ภราดรกล่าวว่า สำหรับความชัดเจนในการพูดคุยสันติภาพหลังจากครบรอบเหตุการณ์ตากใบ ขณะนี้มีการสื่อสารผ่านผู้อำนวยความสะดวกฝ่ายมาเลเซียแล้ว เพื่อมีการกำหนดวันพูดคุยต่อไป การนัดหมายในเบื้องต้นยังไม่ชัดเจน อยู่ระหว่างขั้นตอนการประสานงานในเวลาที่จะลงตัวซึ่งกันและกัน โดยมีการประมาณการณ์ไว้ว่าจะเป็นช่วงเดือน พ.ย. แต่ยังไม่ชัดเจนว่าอยู่ในช่วงใด ส่วนหัวข้อที่จะพูดคุยยังเป็นพื้นฐานอยู่คือ ข้อเรียกร้องของผู้ก่อความไม่สงบ และการลดเหตุความรุนแรง ทั้งนี้ สำหรับคณะพูดคุยตอนนี้ยังยืนยันที่ชุดเดิม แต่จะมีชุดสนับสนุนเชิงวิชาการในพื้นที่มากขึ้น ส่วนคณะพูดคุยฝั่งบีอาร์เอ็นเรายังไม่ทราบ แต่คงจะยืนในหลักว่าประเด็นข้อเรียกร้องจะต้องเริ่มมีการสื่อสารเชิงวิชาการมากขึ้น คาดว่าบีอาร์เอ็นจะจัดผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในประเด็นเหล่านั้นมาร่วมด้วย แต่ยืนยันว่าหัวหน้าคณะพูดคุยยังเป็นนายฮัสซัน ตอยิบ เหมือนเดิม ส่วนกลุ่มพูโล และกลุ่มอื่นๆ ที่จะมาร่วมพูดคุยอยู่ในกระบวนการประสานงานโดยบีอาร์เอ็นอยู่ เราคาดหวังว่าจะมีกลุ่มมาร่วมพูดคุยเพิ่ม
เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติยังกล่าวถึงการเคลื่อนไหวของกลุ่มต่างๆ ที่อยู่ตรงข้ามรัฐบาลว่า จะต้องรอดูผลการประชุมที่นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มกรีน ได้มีการเชื้อเชิญตัวแทนทุกจังหวัดมาเข้าร่วมประชุมในวันที่ 27 ต.ค.นี้ก่อนว่า น้ำหนักของกลุ่มดังกล่าวจะมีมากน้อยเท่าไร มีเป้าหมายของการชุมนุมและกำลังคนอย่างไร จึงจะสามารถประเมินภาพออก โดยจะต้องดูศักยภาพของเขาว่าจะทำให้ทุกกลุ่มไหลมารวมกันได้หรือไม่ ขณะที่กลุ่มเครือข่ายคนไทยหัวใจรักชาติของนายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ ที่ออกมาคัดค้านไม่ให้ไทยยอมรับอำนาจศาลโลกในคดีเขาพระวิหารนั้น ถือว่ามีความสัมพันธ์และเชื่อมโยงกันด้วย ส่วนองค์กรต่อต้านคอรัปชั่นที่ออกมาเคลื่อนไหวคัดค้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ก็เช่นเดียวกัน แต่จะเป็นผู้ทรงคุณวุฒิที่เน้นหนักไปทางวิชาการที่จะเสริมภาพลักษณ์ให้มีการน้ำหนักในการชุมนุม อย่างไรก็ตาม กลุ่มตรงข้ามรัฐบาลที่เคลื่อนไหวขณะนี้ จำแนกเป็นกลุ่มใหญ่ๆ ได้คือ กลุ่มเครือข่ายนักศึกษาและประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) กองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ (กปท.) และจะต้องมาดูกลุ่มกรีนของนายสุริยะใสที่จะเป็นตัวบูรณาการร่วม
เลขาฯ สมช.กล่าวว่า สำหรับกระบวนการพิจารณร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมนั้น ยังยืนยันว่าเป็นกระบวนการของฝ่ายนิติบัญญัติ และมีขั้นตอนอยู่อีกพอสมควร ตรงนี้จึงไม่ใช่ภาระของรัฐบาล เพียงแต่รัฐบาลจำเป็นต้องมีการชี้แจงทำความเข้าใจให้ประชาชนทราบ เพราะรัฐบาลต้องเฝ้าระวังไม่ให้เกิดความไม่เรียบร้อย อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่ได้มีการประเมินสถานการณ์ในขั้นว่า หาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ได้เงินคืนสถานการณ์จะรุนแรงหรือไม่ แต่ทุกวันนี้เรากำลังจับตา เพราะทุกฝ่ายกำลังหารือประเด็นนี้อยู่ จึงต้องรอดูข้อมูลที่ออกมาก่อน