เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ยันไม่แก้ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมแบบสุดซอย ไม่ใช้ร่างเดิมของ “วรชัย” อ้างต้องยกผิดแบบเสมอภาคตามรัฐธรรมนูญ ม.30 ขณะเดียวกันเปิดทางถอย ถ้าหากมีแรงต้านมากๆ
นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกระแสข่าวพรรคเพื่อไทยจะถอนร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมที่คณะกรรมาธิการพิจารณา พ.ร.บ.นิรโทษกรรมแก้ไขเนื้อหาใหม่ โดยกลับไปใช้ร่างเดิมของนายวรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย ว่าขอยืนยันว่ายังไม่มีการถอนร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว พรรคเพื่อไทยยังเดินหน้าเพื่อคืนความยุติธรรมแก่บุคคลที่ไม่ได้รับยุติธรรมจากการรัฐประหารหรือผลพวงของการรัฐประหาร
ส่วนที่กรรมาธิการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม มีมติเสียงข้างมากแก้ไขเนื้อหาให้นิรโทษกรรมแกนนำทุกฝ่าย รวมทั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นั้นไม่ใช่การหักหลังมวลชน เหตุผลที่ต้องแก้ไขเนื้อหาเนื่องจากมีแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ และผู้พิพากษาบางส่วนท้วงติงว่าร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมอาจขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 30 เรื่องหลักความเสมอภาค พรรคจึงนำมาทบทวนเพราะไม่ต้องการให้ร่างนิรโทษกรรมต้องตกไปทั้งฉบับ จนทำให้ประชาชนไม่ได้รับประโยชน์จากกฎหมายฉบับนี้เลย หากขัดมาตรา 30 จริงๆ ในที่สุดกรรมาธิการฯจึงแก้ไขเนื้อหาใหม่ โดยยึดเกณฑ์การนิรโทษกรรมจากเหตุการณ์เป็นหลักแทน
“พรรคเพื่อไทยไม่ได้ทำเรื่องนี้แบบหลบๆ ซ่อนๆ หรือแอบทำ ทำทุกอย่างเปิดเผยตามกระบวนการ และยืนยันว่า พรรคเพื่อไทยไม่ได้ถอยอย่างที่เป็นข่าว สิ่งที่เราทำอยู่บนพื้นฐานของความถูกต้องที่ต้องการให้ทุกคนได้รับประโยชน์เหมือนกัน เป็นการแก้ปัญหาให้สังคม ส่วนการตั้งข้อสังเกตว่าการดำเนินการของกรรมาธิการฯจะขัดหลักการที่ผ่านวาระแรกหรือไม่นั้น ยืนยันว่าไม่ขัดหลักการ เพราะในหลักการวาระแรกพูดถึงการไม่เห็นด้วยกับการรัฐประหารและผลพวงของการรัฐประหาร ซึ่งในเนื้อหาที่แก้ไขใหม่ก็ยืนยันไม่เห็นด้วยกับการรัฐประหาร จึงไม่ใช่การขัดหลักการ โดยเนื้อหาที่แก้ไขจะครอบคลุมแค่ไหน ก็ยังอยู่ในหลักการเดิม”
นายภูมิธรรมกล่าวว่า เรื่องแรงต้านนอกสภายอมรับว่าปฏิเสธไม่ได้ที่จะมีแรงต่อต้าน แต่เป็นแรงต้านจากคนกลุ่มเดิมๆ ถ้าเราเชื่อมั่นว่าสิ่งที่ทำถูกต้อง ก็ต้องทำเพื่อให้ประเทศเข้าสู่กระบวนการมีนิติรัฐ นิติธรรม อย่างไรก็ตาม หากมีแรงต่อต้านมากก็พร้อมทบทวนกัน แต่ยืนยันว่าจะไม่ใช้วิธียุบสภาเป็นทางออก หากมีแรงต่อต้านมากๆ เราไม่คิดว่าเรื่องนี้เป็นการลุยไฟ แต่คิดว่าเป็นการทำในสิ่งที่ถูกต้อง เมื่อมีอุปสรรคก็ต้องแก้ไข เราไม่ได้เร่งรัดเรื่องนี้ เพราะประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา หลังเกิดการรัฐประหาร ก็มีการนิรโทษกรรม แต่ขณะนี้ผ่านมา 8 ปี จึงถึงเวลาที่ควรนิรโทษกรรม ยืนยันว่าไม่ได้คิดที่จัดการ ทำลายหรือปกป้องใคร และไม่ได้คิดจะเอาชนะใคร แต่คิดทำในสิ่งที่ถูกต้องเท่านั้น