โฆษกกลาโหมเผยกระทรวงเตรียมให้ข้อมูลนายกฯ คดีพระวิหารสัปดาห์หน้า อ้างอาเซียนต้องเน้นเจรจาประนีประนอม ยังไม่เพิ่มกำลัง เผยรัฐมนตรีสั่งเร่งระบายน้ำท่วมออก ส่งกำลังพลร่วม ปภ.สำรวจความเสียหาย ช่วยเหลือผู้ป่วย ระบุใช้ 13,257 นายลุยน้ำ
วันนี้ (17 ต.ค.) ที่กระทรวงกลาโหม พ.อ.ธนาธิป สว่างแสง โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า ในสัปดาห์หน้า พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก ปลัดกระทรวงกลาโหม พร้อมเหล่าทัพ ในฐานะฝ่ายความมั่นคงจะเข้าร่วมหารือและให้ข้อมูลเกี่ยวกับคดีปราสาทพระวิหารที่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือศาลโลก นัดแถลงคดีในวันที่ 11 พ.ย. ตามที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมเรียกประชุม ซึ่งคาดว่านายกฯ ต้องการรับฟังความคืบหน้าการดำเนินหลังจากที่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศอ่านคำแถลง เพื่อเตรียมพร้อมความมั่นคง ขณะเดียวกัน เชื่อว่าฝ่ายไทยได้ใช้เอกสารสู้คดีอย่างเต็มที่ตามขั้นตอนของศาล ดังนั้น แนวทางดีที่สุดคือการประนีประนอม เน้นการเจรจา เพราะขณะนี้จะเข้าสู่ประชาคมอาเซียนด้วยกัน ส่วนสถานการณ์ตามแนวชายแดนยังคงวางกำลังทหารดูแลความเรียบร้อย โดยไม่ได้เพิ่มกำลัง และประชาชนใช้ชีวิตได้ตามปกติ
นอกจากนี้ โฆษกกระทรวงกลาโหมยังกล่าวว่า จากสภาพหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงที่อ่อนกำลังลงจากพายุนารี ได้อ่อนกำลังลงปกคลุมภาคเหนือตอนล่างและภาคกลางตอนบน บริเวณ จ.พิษณุโลก พิจิตร นครสวรรค์ และชัยนาท ลักษณะเช่นนี้ทำให้มีฝนทั่วไปในภาคกลางและมีฝนตกหนักบางแห่งในบริเวณ จ.กำแพงเพชร พิจิตร พิษณุโลก นครสวรรค์ ชัยนาท และสิงห์บุรี ส่งผลให้มีฝนเพิ่มขึ้นในภาคเหนือตอนล่างและภาคกลาง ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออก จะเริ่มมีฝนลดลงและจะกลับเข้าสูปกติในวันที่ 18 ต.ค. 2556
โฆษกกระทรวงกลาโหมกล่าวว่า ทั้งนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในฐานะ ผอ.ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกระทรวงกลาโหมมีความห่วงใยต่อการใช้ชีวิตของประชาชนในพื้นที่ที่มีน้ำท่วมขัง ซึ่งเมื่อวันที่ 15 ต.ค. 2556 ได้เดินทางพร้อมด้วย พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมช.กลาโหม พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.วรพงษ์ สง่าเนตร รอง ผบ.สูงสุด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.ได้ไปเยี่ยมพร้อมมอบสิ่งของให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบในพื้นที่ อ.บ้านสร้าง จ.ปราจีนบุรี และ อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา พร้อมได้สั่งการถึงแนวทางการแก้ปัญหาในพื้นที่ที่มีน้ำท่วมขังสูงและไม่สามารถระบายน้ำออกนอกพื้นที่ได้ โดยให้แบ่งโซนนิ่งให้ระบายน้ำออกอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง
โฆษกกระทรวงกลาโหมกล่าวอีกว่า นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพเรือ หน่วยเฉพาะกิจผลักดันน้ำกรมอู่ทหารเรือ สนับสนุนเครื่องผลักดันน้ำจำนวน 85 เครื่อง ดำเนินการเร่งระบายน้ำที่ จ.ฉะเชิงเทรา ในพื้นที่อำเภอเมืองจำนวน 16 เครื่อง และ อ.บางปะกง จำนวน 16 เครื่อง จ.ชลบุรี ในพื้นที่ อ.พานทอง จำนวน 16 เครื่อง และพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร จำนวน 4 เครื่อง ส่วนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ในเขตลาดกระบังจำนวน 18 เครื่อง พื้นที่ถนนบางนา-ตราดจำนวน 13 เครื่องเพื่อเร่งระบายน้ำจากทุ่งนาและลำคลองพานทองลงสู่แม่น้ำบางปะกงเพื่อไหลสู่อ่าวไทย ส่วนพื้นที่ฝั่งตะวันตกของกรุงเทพมหานคร บริเวณคลองทวีวัฒนา อ.นครชัยศรี จำนวน 2 เครื่อง เร่งระบายน้ำลงสู่แม่น้ำท่าจีน
พ.อ.ธนาธิปกล่าวอีกว่า นายกรัฐมนตรีฯให้ความสำคัญกับการช่วยเหลือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนโดยเฉพาะการดูแลผู้ป่วยเป็นลำดับแรกได้มอบให้กำลังพลของ ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกระทรวงกลาโหม ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองบัญชาการกองทัพไทย โดยหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา และศูนย์บรรเทาสาธารณภัยเหล่าทัพ ประสานงานร่วมกับสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเร่งสำรวจความเสียหายพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วมขัง บ้านเรือนประชาชน เมื่อสถานการณ์เริ่มคลี่คลายเข้าสู่สภาวะปกติโดยทันที รวมถึงการเร่งแก้ปัญหาบำบัดน้ำเสียโดยใช้สารจุลินทรีย์บำบัดน้ำเสีย โดยให้ดำเนินการผลิตสารจุลินทรีย์ทั้งแบบน้ำและลูกบอลตามความเหมาะสมของพื้นที่ รวมถึงบูรณาการใช้ศักยภาพของกำลังพลและเครื่องมือของแต่ละส่วนงานเพื่อเร่งแก้ปัญหาการระบายน้ำให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
ทั้งนี้ ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กระทรวงกลาโหม และศูนย์บรรเทาสาธารณภัยหน่วยขึ้นตรงกระทรวงกลาโหม ได้สรุปการช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ ตั้งแต่วันที่ 17 ก.ย.จนถึง 16 ต.ค. 2556 ดังนี้ จัดกำลังพลจำนวน 13,257 นายพร้อมยุทโธปกรณ์ รถยนต์บรรทุกขนาดต่างๆ จำนวน 291 คันรถครัวสนาม จำนวน 3 คัน โดยสามารถผลิตข้าวกล่องได้ประมาณ 2,000 กล่อง/คัน/วันรถประปาสนาม จำนวน 2 คัน พร้อมชุดประปาสนาม 3 ชุดเรือจำนวน 198 ลำ ชุดแพทย์เคลื่อนที่ จำนวน 6 ชุด เครื่องสูบน้ำ จำนวน 58 เครื่องเครื่องผลักดันน้ำ จำนวน 87 เครื่องอากาศยาน จำนวน 2 ลำ