ผู้ริเริ่มล่าชื่อค้านเขื่อนแม่วงก์บนเว็บไซต์ ประกาศเลื่อนเดินยื่นหนังสือถึงรัฐบาล-สหประชาชาติ เพื่อยับยั้งโครงการเสาร์นี้ อ้างติด พ.ร.บ.มั่นคง ไม่เอื้อกิจกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อม ไม่หวังนำพลังบริสุทธิ์เสี่ยงโดยไม่จำเป็น หวั่นถูกโยงเรื่องการเมือง พร้อมนัดใหม่เมื่อสถานการณ์ปกติ
วันนี้ (16 ต.ค.) เว็บไซต์เฟซบุ๊ก Green Move Thailand ได้ออกแถลงการณ์ขอเลื่อนกิจกรรม “เดิน-ยื่น-หยุดเขื่อนแม่วงก์” ในวันเสาร์ที่ 19 ตุลาคมนี้ อย่างไม่มีกำหนด โดย นายสมิทธิ ตุงคะสมิต ประธานเครือข่ายอาสาเพื่อสิ่งแวดล้อม Green Move Thailand และในฐานะผู้ริเริ่มการรณรงค์บน Change.org เพื่อยุติเขื่อนแม่วงก์ ได้ระบุว่า ในช่วงระยะเวลากว่า 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุการณ์เคลื่อนไหวทางการเมืองในเขตกรุงเทพฯ ซึ่งยังผลมาสู่ความไม่สะดวกบางประการต่อการจัดกิจกรรมดังกล่าว ตนเองพร้อมด้วยทีมอาสาสมัครเครือข่าย Green Move Thailand จึงได้ตัดสินใจ เลื่อนกิจกรรมครั้งนี้ออกไป ด้วยเหตุดังต่อไปนี้
1.เราเห็นความปลอดภัยของชีวิตและทรัพย์สินของผู้ร่วมเดินเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เพราะเราเชื่อว่าการต่อสู้ครั้งนี้ยังต้องผ่านอีกหลายวาระของเวลา เราจึงไม่ต้องการนำพลังบริสุทธิ์มาเสี่ยงโดยไม่จำเป็น ไม่ว่าเหตุผลใดๆ ทั้งสิ้น 2.เราแสดงจุดยืนมาโดยตลอดว่า เราคือเสียงบริสุทธิ์ของประชาชนที่หวงแหนสิ่งแวดล้อมไทยเท่านั้น ดังนั้นเราจึงมีความจำเป็นที่ต้องระมัดระวังให้ทุกการเคลื่อนไหวของเราไม่ถูกชักจูงให้เป็นเรื่องของประเด็นทางการเมือง และ 3.เรายังยืนยันว่า เราต้องการทำภารกิจที่วางไว้ให้ลุล่วง เราต้องการยื่น 100,000 เสียงของประชาชนผู้รักสิ่งแวดล้อม ที่ลงชื่อผ่านเว็บไซต์ www.change.org/maewongdam ไปให้ถึงรัฐบาลและองค์การสหประชาชาติให้สำเร็จ
นายสมิทธิ ระบุอีกว่า ทั้งนี้ด้วยเหตุการณ์ปัจจุบัน เป็นการยากที่เราจะทำภารกิจให้ลุล่วงไปได้ เพราะสถานที่ทั้งสองแห่งตั้งอยู่ในพื้นที่เดียวกันกับเหตุการณ์ความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้น และยังเป็นพื้นที่ที่มีการประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง ซึ่งไม่เอื้อต่อการทำกิจกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อมของพวกเรา อย่างไรก็ตาม เรายังยืนยันว่า เราจะยัง เดิน ไปด้วยกัน เพื่อ ยื่น เสียงของประชาชนที่ต้องการปกป้องผืนป่าตะวันตก และเราจะ หยุด เขื่อนแม่วงก์ไม่ให้เกิดขึ้นบนผืนแผ่นดินไทย เรายังมุ่งมั่นที่จะดำเนินกิจกรรมนี้ต่อไปให้สำเร็จตามเจตนารมณ์ตั้งต้นอย่างไม่บิดพลิ้ว โดยสัญญาว่าจะกลับมาโดยเร็วที่สุด หลังจากที่เหตุการณ์บ้านเมืองกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ขอขอบพระคุณเป็นอย่างสูงสำหรับความเข้าใจและแรงสนับสนุนที่จะร่วมต่อสู้กันต่อไป