ทบ.โต้ อสส.ยันใช้รถยานเกราะแค่ที่กำบัง ปัดวิจารณ์สั่งไม่ฟ้อง “ทักษิณ”

รองโฆษกกองทัพบกโต้ “อสส.” ปัดใช้รถยานเกราะ-อาวุธสงครามกระชับพื้นที่ชุมนุมเสื้อแดงปี 2553 ชี้ใช้รถยานเกราะแค่ที่กำบัง-เคลียร์สิ่งกีดขวาง ปัดตอบสั่งไม่ฟ้อง “ทักษิณ” คดีก่อการร้าย ระบุไม่เกี่ยวข้อง ยันศาลยังไม่ชี้ผิด อยู่ในขั้นไต่สวน

วันนี้ (11 ต.ค.) พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก (ทบ.) กล่าวถึงกรณีมีการนำเสนอการแถลงของสำนักงานอัยการสูงสุด เมื่อวันที่ 10 ตุลาคมที่ผ่านมา เรื่องการสั่งคดีของสำนักงานอัยการสูงสุด และมีการกล่าวถึงเหตุรุนแรงที่แยกราชประสงค์ เกิดขึ้นเนื่องจากการใช้กำลังทหารเข้ากดดันกระชับพื้นที่ และปิดล้อมโดยใช้รถยานเกราะและอาวุธสงครามขับไล่สลายการชุมนุมกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก ว่า ทบ.ในฐานะที่เป็นหน่วยจัดกำลังเจ้าหน้าที่ทหารเข้ากระชับพื้นที่ โดยการปฏิบัติหน้าที่เป็นไปตามกฎหมาย หรือตามที่กฎหมายให้อำนาจไว้ โดยขอชี้แจงว่า 1.ในเรื่องการสั่งคดีคงเป็นไปตามดุลยพินิจของผู้รับผิดชอบตามกระบวนการยุติธรรม ที่หลายฝ่ายรวมทั้ง ทบ.ให้เคารพในดุลพินิจ 2.แต่เนื้อหาของการให้ข้อมูลต่อสังคมในบางส่วนพาดพิง ทบ.ซึ่งอาจนำไปสู่การเข้าใจผิดของสังคม โดยเฉพาะในประเด็นที่กล่าวว่าใช้กำลังทหารเข้ากดดันกระชับพื้นที่ และปิดล้อมโดยใช้รถยานเกราะและอาวุธสงครามขับไล่สลายการชุมนุม นปช. จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก ข้อมูลดังกล่าวอาจส่งผลกระทบกับความรู้สึกสังคมที่มีต่อเจ้าหน้าที่

พ.อ.วินธัย กล่าวว่า การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ทหารในช่วงนั้น ในทุกๆ พื้นที่ก็จะมีตำรวจร่วมอยู่ด้วยในฐานะผู้รับผิดชอบตามสายงานปกติ และในพื้นที่ชุมนุมราชประสงค์ประชาชนยังคงสัญจรเข้าออกได้ตามปกติเจ้าหน้าที่ไม่สามารถปิดกั้นได้ ซึ่งการบาดเจ็บและเสียชีวิต เริ่มมีมาตั้งแต่ช่วงเดือนเมษายนแล้ว ไม่ใช่เฉพาะในวันที่มีการใช้รถเกราะเท่านั้น ที่สำคัญการบาดเจ็บเสียชีวิตในช่วงเมษายน 53 ก็เกิดกับ เจ้าหน้าที่ก่อนด้วยซ้ำ มิใช่แค่นั้นช่วงเดือนพฤษภาคม 53 บริเวณสวนลุมพินีใกล้แยกราชประสงค์ก็ยังคงมี เจ้าหน้าที่เสียชีวิตและบาดเจ็บอีกด้วยเช่นกัน แสดงให้เห็นได้ชัดว่ามีการใช้อาวุธร้ายแรงกันมากในบริเวณพื้นที่ๆมีการชุมนุมมาโดยตลอด อีกทั้งอาวุธของ เจ้าหน้าที่เองก็ถูกกลุ่มผู้ชุมนุมบางส่วนปล้นยึดไปจำนวนมากตั้งแต่ เมษายน 53 และมีหลักฐานปรากฏว่าถูกนำไปใช้ในหลายๆ พื้นที่ด้วย

รองโฆษกกองทัพบก ขอยืนยันว่าการปิดล้อมโดยใช้รถยานเกราะและอาวุธสงครามของเจ้าหน้าที่ไม่ใช่สาเหตุที่ทำให้มีการเสียชีวิตและบาดเจ็บอย่างแน่นอน การใช้รถยานเกราะของเจ้าหน้าที่เพียงเพื่อใช้เป็นที่กำบังเป็นเกราะป้องกันสร้างความปลอดภัยให้เจ้าหน้าที่เพราะรถยานเกราะสามารถกำบังป้องกันอาวุธกระสุนและระเบิดได้ รวมทั้งเพื่อให้ จนท.สามารถก้าวข้ามและรื้อถอนสิ่งกีดขวางที่อยู่บนถนนที่ทางกลุ่มผู้ชุมนุมได้จัดทำขึ้นมาได้ โดยก่อนใช้เจ้าหน้าได้มีการชี้แจงไว้ตั้งแต่แรกแล้วถึงสาเหตุความจำเป็นที่นำไปใช้เพื่อป้องกันชีวิตความปลอดภัยแก่ตัวเจ้าหน้าที่ทหารและประชาชนผู้บริสุทธิ์ ตลอดจนทรัพย์สินของ ทางราชการ อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ในช่วงปี 53 ยังอยู่ในกระบวนการยุติธรรม การให้ข้อมูลแก่สังคมเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ขอเห็นใจทหารด้วย โดยเฉพาะการด่วนสรุปและการให้ข้อมูลที่จะทำให้เกิดความเข้าใจที่ผิดในตัวองก์กรและตัวเจ้าหน้าที่ทหารผู้ปฏิบัติ

“ส่วนการการสั่งคดีที่เป็นข่าวออกมา จะเป็นอัยการสูงสุดท่านเก่าหรือท่านใหม่ เราไม่เกี่ยวข้อง เป็นเรื่องของการเมือง เราไม่ขอแสดงความคิดเห็น แต่ส่วนคำชี้แจงที่พูดถึงทหารมีแค่นั้นเราก็ชี้แจงไป แต่คดีที่เกี่ยวข้องกับทหารยังไม่มีการพิจารณา ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการไต่สวน” รองโฆษก ทบ.ระบุ เมื่อถามถึงกรณีการแยกสำนวน สั่งไม่ฟ้องคดีก่อการร้ายของ พ.ต.ท.ทักษิณ