“สุรนันทน์” บีบศาลวินิจฉัยทูลเกล้าฯ แก้ไข รธน.ต้องมีทางออกให้นายกฯ

เลขาธิการนายกฯ ยันปรับ ครม.เป็นอำนาจของนายกฯ ไม่ขอวิจารณ์ ปัดเอี่ยว ส.ส.บินหานายใหญ่ อ้างก็แค่ไปมาหาสู่แล้วแนะนำกันมา ยันคำเดิมนายกฯ ทูลเกล้าฯร่างแก้ รธน.ทำตามหน้าที่ บีบศาลถ้าคำวินิจฉัยต่างต้องมีทางออกให้นายกฯ

วันนี้ (3 ต.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ยังไม่เห็นพูดอะไร การปรับ ครม.เหมือนการบริหารงานทั่วไป เมื่อถึงเวลาก็ต้องมีการพิจารณา แต่คิดว่าขณะนี้การทำงานยังเดินหน้าไปได้ ซึ่งสุดท้ายแล้วปรับหรือไม่ปรับอำนาจอยู่ที่นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม โดยสมบูรณ์ ต้องให้เกียรตินายกฯ ตนไม่มีอำนาจไม่ก้าวล่วง ยังไม่สามารถวิพากษ์วิจารณ์อะไรได้ เป็นสิทธินายกฯ ตัดสินใจในฐานะผู้บังคับบัญชาที่จะคิดอ่านการบริหาร การจัดคน จัดงานให้ลงตัว นายกฯ จะปรับหรือไม่ปรับก็ได้

เมื่อถามว่ากระแสข่าวปรับ ครม.เกิดขึ้นภายหลัง ส.ส.พรรคเพื่อไทย เดินทางไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ฮ่องกง นายสุรนันทน์ กล่าวว่าเป็นเรื่องปกติของคนที่รู้จักก็ไปมาหาสู่กัน พ.ต.ท.ทักษิณ มีคำแนะนำ นายกฯ ก็รับฟัง แต่สุดท้ายการตัดสินใจอยู่ที่นายกฯ ยิ่งลักษณ์

ส่วนกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญยกคำร้องชะลอการนำร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเพิ่มเติมว่าด้วยที่มาของ ส.ว. นายสุรนันทน์ กล่าวว่า ศาลต้องทำตามหน้าที่ภายใต้อำนาจของกฎหมาย และการที่นายกรัฐมนตรีนำขึ้นทูลเกล้าฯ ก็ทำตามกฎหมายรัฐธรรมนูญกำหนดเช่นกัน แต่หากภายหลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยที่แตกต่างออกไป ศาลก็ต้องมีทางออกให้กับนายกฯด้วย เพราะนายกฯ ทำตามรัฐธรรมนูญ และในเมื่อศาลรัฐธรรมนูญเป็นผู้ที่ดูทุกลายลักษณ์อักษรของรัฐธรรมนูญ รวมทั้งไม่จำเป็นที่นายกฯ จะต้องลาออกหรือยุบสภาเพื่อแสดงความรับผิดชอบ เพราะไม่ได้มีข้อผิดพลาดอะไรในการบริหารราชการแผ่นดิน และสถานการณ์การเมืองยังไม่ถึงขั้นวิกฤต