xs
xsm
sm
md
lg

ปชป.หดหู่ “ปู” หายหัวไม่แจงน้ำท่วม “วราเทพ” ปัดผลาญ 1.2 แสนล้าน ชี้งบฯ เยียวยา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ส.ส.อุบลฯ ปชป.ชงกระทู้ รับหดหู่นายกฯ ไร้เงาไม่ตอบน้ำท่วมอีสาน ยกป้ายหาเสียงลาก่อนน้ำท่วมย้อน จวกละลาย 1.2 แสนล้านแก้น้ำท่วมเหลว เบิกจ่ายครบเกือบทุกโครงการ มท.2 แจงรัฐฯ เยียวยา โว ปชช.ดีใจ “ปู” ลงเยี่ยม แก้เร็วไม่เลือกปฏิบัติ อ้างป้ายลาน้ำท่วมไม่เสียหาย “วราเทพ” ชี้งบฯ ป้องกันอยู่ใน 3.5 แสนล้าน เจอยกรายงาน รบ.สวน อัดโกหกที่ประชุม ย้อนไม่เลือกปฏิบัติให้เยียวยาแบบนครสวรรค์ เจ้าตัวโวยเข้าใจไปเอง ย้ำ 1.2 แสนล้านไว้เยียวยา เป็นไปไม่ได้ช่วยเท่ากัน

วันนี้ (3 ต.ค.) นายศุภชัย ศรีหล้า ส.ส.อุบลราชธานี พรรคประชาธิปัตย์ กระทู้ถามสดนายกรัฐมนตรีเรื่อง สถานการณ์พื้นที่ประสบอุทกภัย ว่าตนหดหู่ใจที่นายกรัฐมนตรีไม่ยอมมาตอบกระทู้สดเรื่องน้ำท่วมในภาคอีสาน ตอนช่วงรณรงค์หาเสียงพรรคเพื่อไทยได้ขึ้นป้ายลาก่อนน้ำท่วม น้ำแล้ง แต่ภาพที่ปรากฏมีน้ำท่วมล่าสุดถ้วนหน้า สร้างความเดือดร้อนของประชาชนมากมาย รัฐบาลทำอะไรอยู่ รัฐบาลใช้เงิน 1.2 แสนล้านบาทในการแก้ปัญหาน้ำท่วม 154 โครงการ ขณะนี้เบิกจ่ายไป 100% ใน 146 โครงการ เหลือเพียง 8 โครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการ และเบิกจ่ายไปแล้วกว่า 80% อยากถามว่าใน 8 โครงการ เพื่อฟื้นฟูวัตถุโบราณของกรมศิลปากร 6 แห่ง โดยโครงการต่างๆ มีการจัดซื้อวิธีพิเศษ ที่ฝ่ายค้านเคยอภิปรายไม่ไว้วางใจว่ามีการทุจริตมากมาย วันนี้ได้ปรากฏให้เห็นชัดเจนแล้วจากปัญหาน้ำท่วมที่ต่างๆ ถามว่าวันนี้เงิน 1.2 แสนล้านบาทละลายไปแล้วใช่หรือไม่ เงิน 1.2 แสนหมื่นล้านที่รัฐบาลเอาไปช่วยปัญหาน้ำท่วมปรากฏเท็จจริงเป็นอย่างไร

นายประชา ประสพดี รมช.มหาดไทย ชี้ว่า รัฐบาลจะเร่งจ่ายเงินชดเชยบ้านเรือนที่ถูกน้ำท่วมทั้งหลัง หลังละ 33,000 บาท ให้การช่วยเหลือด้านเกษตร พืชไร่ 1,113 บาทต่อไร่ ไม่เกิน 30 ไร่ และจ่ายเงินเยียวยาผู้เสียชีวิตจากสถานการณ์อุทกภัยรายละ 25,000 บาท แต่หากเป็นหัวหน้าครอบครัวจะได้รับการช่วยเหลือ 50,000 บาท

“นายศุภชัยไม่ต้องหดหู่ใจที่นายกฯ ไม่มาตอบ เพราะขณะนี้ประชาชนใจพองโตที่นายกฯ ได้ลงไปเยี่ยมเยียนช่วยเหลือตั้งแต่ที่ จ.ปทุมธานี ปล่อยเรือที่ จ.อุบลราชธานี จ.ศีรสะเกษ มีการจัดกำลังพลทุกหน่วยกว่าหมื่นนายไปช่วยเหลือ ส่วนเรื่องป้ายลาก่อนน้ำท่วม มีใครอยากจะเจอน้ำท่วมบ้าง ลาก่อนน้ำท่วมเป็นเรื่องที่ดี น้ำไม่ท่วมประชาชนก็ไม่เดือดร้อน มันเป็นเรื่องของจิตใจที่ประชาชนมีความสุขแต่เป็นห่วงพี่น้องจึงเขียนป้ายลาก่อนน้ำท่วม มันเสียหายตรงไหน เรื่องที่ดีควรยกย่อง แต่ธรรมชาติมันเกิด มันไมได้เกิดจากเรากดปุ่มสั่งให้มันท่วม แต่สำคัญอยู่ที่ว่าน้ำท่วมแล้ว นายกฯ ดำเนินการอย่างไรบ้าง มีการลงไปแก้ไขอย่างรวดเร็วทั่วถึง และไม่เลือกปฏิบัติ ที่สำคัญประกาศเป็นเจตนารมณ์ว่า ท้องถิ่นทีเกิดความเดือดร้อนประชาชนทุกคนต้องไปถูกตัดขาด การขึ้นป้ายลาก่อนน้ำท่วมจึงถูกต้องแล้ว” นายประชากล่าว

ด้านนายวราเทพชี้แจงว่า งบประมาณ 1.2 แสนล้านบาท ไม่ใช่งบประมาณที่นำไปใช้ในการป้องกัน แต่นำไปใช้ในการฟื้นฟู เยียวยา และบูรณาการซ่อมแซมความเสียหายที่เกิดขึ้น ส่วนเรื่องการป้องกันจะอยู่ในงบ 3.5 แสนล้านบาท และยืนยันการเบิกจ่ายวิธีพิเศษ ไม่ใช่มีการทุจริตเกิดขึ้น หากมีก็ไปว่าตามข้อเท็จจริง

นายศุภชัยแย้งว่า แต่ในรายงานผลงานของรัฐบาล ระบุไว้ชัดว่ารายจ่ายงบปี 55 จำนวน 1.2 แสนล้านบาท ผลที่ได้รับคือช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยอย่างดี รวดเร็ว นอกจากนี้มีการเตรียมความพร้อมรับมืออุทกภัยที่อาจจะเกิดขึ้นในปี 55 โดยเร่งรัดด้านโครงการพื้นฐานด้านคมนาคม บริหารจัดการน้ำและมีการติดตามการดำเนินงานของนายกรัฐมนตรีอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ดำเนินการแล้วเสร็จทันฤดูฝน แสดงว่านายวราเทพไม่ได้ดูเอกสารรายงานดังกล่าวเลย ถือว่าโกหกในที่ประชุมนี้

“วันนี้การแก้ไขปัญหาน้ำท่วมรัฐบาลต้องรับไปเต็มๆ จะมาอ้างว่าแค่ป้ายอย่างเดียวเพียงพอแล้ว ไมได้ ถ้าอย่างนั้นไม่ต้องบริหารแผ่นดินแล้ว ชี้ตามป้ายที่เห็นแล้วบอกว่านี่คือผลงานรัฐบาลใช่หรือไม่” นายศุภชัยกล่าว และว่า ส่วนที่นายประชาบอกว่านายกฯ ไม่เลือกปฏิบัติ ถ้าไม่เลือกปฏิบัติอยากให้ทำเหมือนที่เคยไปแจกเงินช่วยเหลือประชาชนที่ จ.นครสวรรค์ รายละ 3 หมื่นบาท หวังว่าประชาชนทุกพื้นที่ที่ได้รับปัญหาจะๆได้เช่นรับในอัตรานี้ด้วย จึงขอถามว่าน้ำท่วมบ้านเรือนจะได้ 3 หมื่นบาทหรือไม่ และพืชผลทางการเกษตรที่เสียหายจะได้รับเงินชดเชยเท่าไหร่ เมื่อค่าครองชีพสูงขึ้นจะยังได้เท่าเดิมหรือมากขึ้น และระบุวันเวลาได้หรือไม่ว่าจะได้เมื่อไหร่

นายวราเทพกล่าวตอบโต้ว่า เป็นความเข้าใจของนายศุภชัยไปเอง เพราะโดยตรรกะแล้วเงินแค่ 1.2 แสนล้านบาทไม่สามารถป้องกันน้ำท่วมได้ทั้งระบบ ไม่เช่นนั้นจะมาเสนองบ 3.5 แสนล้านบาททำไม แต่ส่วนใหญ่ไปเรื่องการเยียวยามหาอุทกภัยปี 54 และยืนยันว่าไม่มีการเลือกปฏิบัติในการให้ความช่วยเหลือ ต้องยึดระเบียบราชการว่าอย่างไรต้องทำอย่างนั้น โดยพิจารณาถึงหลักเกณฑ์แต่ละเรื่อง กรณีที่นครสวรรค์เป็นเกณฑ์ที่ไม่ปกติ แต่เป็นไปไม่ได้ว่าจะช่วยเท่ากันหมดส่วนจะได้เมื่อสถานการณ์เริ่มคลี่คลาย







กำลังโหลดความคิดเห็น