“บุญยอด” จวก พท.นิ่งเฉยเหตุคลิปตอกบัตรแทนแก้ที่มา ส.ว. ชี้ “ยุทธพงศ์-คมเดช” มีส่วน จี้เผยชื่อ ส.ส.ที่เกี่ยวข้อง บี้นายกฯ รับผิดชอบการกระทำลูกพรรค ย้อน “เด็จพี่” หาคนตัดต่อคลิป อย่าเล่นละครไปวันๆ เผย กมธ.สภาฯ ถกปัญหา ร.ร.โยธินฯ ย้ายออกไม่ทัน ทำอาคารรัฐสภาใหม่ล่าช้า ชี้ สพฐ.ให้จุฬาฯ ออกแบบแปลนเกินงบฯ ที่อนุมัติ และมีการตัด 2 อาคารออก แถมของบเพิ่ม เล็งสอบความผิดพลาดที่เกิดขึ้น
วันนี้ (3 ต.ค.) นายบุญยอด สุขถิ่นไทย ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ถึงกรณีที่มีคลิปกดบัตรแทนกันในระหว่างการพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญในประเด็นที่เกี่ยวกับสมาชิกวุฒิสภาว่า ตนได้แถลงข่าวเรียกร้องพรรคเพื่อไทยให้หาตัวคนที่กดบัตรในคลิปให้รับผิดชอบกับการกระทำดังกล่าว แต่ปรากฏว่าผ่านมา 10 กว่าวันแล้ว ทางพรรคเพื่อไทยไม่มีปฏิกิริยาใดๆ ในเรื่องนี้ ซึ่งในคลิปดังกล่าวตนยืนยันว่ามี ส.ส.ที่ได้ไปรับบัตรจาก ส.ส.ที่ดำเนินการบัตรแทนกัน คือ นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย และนายคมเดช ไชยศิวามงคล ส.ส.กาฬสินธุ์ พรรคเพื่อไทย ซึ่งถึงแม้ว่าบุคคลทั้งสองจะไม่ได้กดบัตรแทนกัน แต่ก็ทราบว่าได้ไปรับบัตรเพื่อไปกดลงคะแนนจาก ส.ส.ดังกล่าว ดังนั้น ตนขอให้ ส.ส.ทั้ง 2 คนเปิดเผยว่า บุคคลที่ได้ดำเนินการดังกล่าวคือ ส.ส.คนใด และขอเรียกร้องให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะแกนนำพรรค ให้รับผิดชอบการกระทำดังกล่าวของลูกพรรค เนื่องจากว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ เพราะเป็นการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ ซึ่งทางพรรคประชาธิปัตย์ได้ดำเนินการยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาเรียบร้อยแล้ว
นายบุญยอดแถลงอีกว่า กรณีที่นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ออกมาแถลงข่าวระบุว่า คลิปดังกล่าวเป็นคลิปตัดต่อนั้น ตนก็ขอเรียกร้องนายพร้อมพงศ์ว่านายพร้อมพงศ์ต้องรักษาศักดิ์ศรีและรักษาคำพูดของตัวเอง ถ้าคลิปนี้เป็นคลิปตัดต่อจริงต้องแสดงหลักฐานให้ชัดเจนว่าตรงไหนเป็นส่วนที่ตัดต่อ แต่ถ้านายพร้อมพงศ์ไม่มีหลักฐานตามที่กล่าวอ้าง ตนก็ถือว่านายพร้อมพงศ์ก็พูดจาเล่นละครเพื่อเอาตัวรอดไปวันๆ ดังนั้น นายพร้อมพงศ์ก็ควรหาให้ได้ว่าใครเป็นคนที่ตัดต่อคลิปดังกล่าวด้วย
ขณะเดียวกัน นายบุญยอดในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการกิจการสภาผู้แทนราษฎร แถลงภายหลังการประชุม ว่าที่ประชุมมีการพิจารณาความคืบหน้าการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ซึ่งขณะนี้เกิดปัญหาการก่อสร้างในส่วนพื้นที่โรงเรียนโยธินบูรณะที่ไม่สามารถย้ายออกได้ภายในกำหนด 1,134 วัน เพราะขณะนี้ผ่านไปแล้ว 834 วัน แต่ติดปัญหาเรื่องการสร้างโรงเรียนโยธินบูรณะแห่งใหม่ ที่ไม่พร้อมย้ายนักเรียนตามเวลาที่กำหนด เนื่องจากยังขาดระบบสาธารณูปโภค ซึ่งทางสภาผู้แทนราษฎรได้อนุมัติงบประมาณในการสร้างโรงเรียนถึง 1,000 ล้านบาท แต่กลับขอเบิกงบประมาณเพิ่มอีก 109 ล้านบาท พร้อมกับต้องตัดอาคารอีก 2 หลังเพื่อให้พอกับงบประมาณ โดยที่ประชุมได้เชิญผู้อำนวยการโรงเรียนโยธินบูรณะมาชี้แจง แต่ก็ไม่ได้ข้อสรุป เนื่องจากเป็นผู้อำนวยการที่เพิ่งมารับตำแหน่งใหม่
นายบุญยอดได้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับกับเรื่องนี้ว่า จากที่คณะกรรมาธิการได้รับข้อมูลมาเบื้องต้น ทราบว่าสภาผู้แทนราษฎรได้อนุมัติงบประมาณให้ สพฐ.ดำเนินการ 1,000 ล้านบาท แต่ภายหลังทราบว่า สพฐ.ได้เสนอให้จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยออกแบบแปลนอาคารในวงเงิน 1,400 ล้านบาท เกินจากที่มีการอนุมัติถึง 400 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้ได้มีการดำเนินการสร้างคืบหน้าแล้วกว่า 56.98% การก่อสร้างจึงไม่เป็นไปตามงบประมาณที่สภาฯอนุมัติให้
ทั้งนี้ การก่อสร้างจากที่มีการออกแบบไปนั้น มีการตัดอาคารออกไป 2 หลัง เพื่อให้งบประมาณลดลง และมีการปรับแบบแปลนทั้งหมด โดยเบื้องต้นจากที่มีการอนุมัติไปแล้ว 1,000 ล้านบาท ไม่เพียงพอต่อการก่อสร้าง จึงมีการของบประมาณในเบื้องต้นอีก 109 ล้านบาท เพื่อสร้างสาธารณูปโภคในอาคาร เพราะขณะนี้มีเพียงโครงอาคารเท่านั้น และต่อไปหากจะมีการดำเนินการสสร้างอาคารอีกสองหลังที่ตัดออกไปจะต้องของบประมาณเพิ่มอีก 145 ล้านบาท เท่ากับว่าการก่อสร้างโรงเรียนโยธินบูรณะแห่งใหม่จะต้องขอเงินเพิ่มอีก 254 ล้านบาท จากวงเงินเดิม จึงจะต้องมีการสอบสวนถึงความผิดพลาดที่เกิดขึ้น โดยทางคณะกรรมาธิการฯ เตรียมเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องอาทิ นายนิคม ไวยรัชพานิช ประธานวุฒิสภา ในฐานะประธานอนุกรรมการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เพื่อร่วมหารือถึงที่มาของงบประมาณที่เพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันจะมีการเสนอเรื่องต่อประธานรัฐสภาเพื่อหาแนวทางการแก้ไขปัญหาต่อไป