ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 2 เรื่องการประปาส่วนภูมิภาควางท่อประปาเส้นผ่านศูนย์กลางไม่เกิน 80 ซม.ผ่านที่ดินไม่ต้องจ่ายค่าทดแทน ขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 41 สิทธิของบุคคลในทรัพย์สิน ชี้ต้องจ่ายค่าทดแทนให้เจ้าของด้วยจำนวนเงินอันเป็นธรรม
วันนี้ (2 ต.ค.) สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญได้เผยแพร่เอกสารข่าวภายหลังการประชุมคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ว่า ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติเสียงข้างมาก 6 ต่อ 2 วินิจฉัยว่า มาตรา 30 ของ พ.ร.บ.การประปาส่วนภูมิภาค พ.ศ.2522 ที่บัญญัติให้การประปาส่วนภูมิภาคไม่ต้องจ่ายค่าทดแทนในการใช้ที่ดินให้กับเจ้าของหรือผู้ครอบครองที่ดิน ในกรณีที่มีการวางท่อน้ำที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางไม่เกิน 80 ซม.ผ่านที่ดินเพื่อประโยชน์ในการผลิต การส่ง การจำหน่ายน้ำประปาขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 41 ที่ระบุว่า สิทธิของบุคคลในทรัพย์สิน ย่อมได้รับความคุ้มครองขอบเขตแห่งสิทธิและการจำกัดสิทธิเช่นว่านี้ ย่อมเป็นไปตามที่กฎหมายบัญญัติ
ทั้งนี้คำวินิจฉัยดังกล่าวสืบเนื่องมาจากศาลปกครองกลางได้ส่งคำโต้แย้งของ น.ส.สมพร และนายสมนึก รับทอง ผู้ฟ้องคดี ที่ยื่นฟ้องการประปาส่วนภูมิภาค ต่อศาลปกครองกลาง เพื่อขอให้การประปาส่วนภูมิภาค ชดใช้ค่าเสียหาย จากการวางท่อประปา ขนาด 56 ซม.รุกล้ำแดนกรรมสิทธิ์ใต้ที่ดิน โดยขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัย ตามมาตรา 211 ว่า พ.ร.บ.การประปาส่วนภูมิภาค พ.ศ.2522 มาตรา 30 ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 41 หรือไม่
โดยการประปาส่วนภูมิภาค ได้ให้การว่า ได้ปฏิบัติตาม พ.ร.บ.การประปาส่วนภูมิภาค พ.ศ.2522 มาตรา 29 ประกอบมาตรา 30 ที่บัญญัติให้การประปาส่วนภูมิภาค มีอำนาจเดินท่อน้ำและติดตั้งอุปกรณ์ไป ใต้ เหนือ ตาม หรือข้ามพื้นดินของบุคคลใดๆ ในเมื่อที่ดินนั้นมิใช่ที่ตั้งสำหรับโรงเรือนอยู่อาศัย และมีอำนาจกำหนดบริเวณที่ดินเดินท่อน้ำและติดตั้งอุปกรณ์ โดยมีความกว้างจากท่อน้ำ ด้านละไม่เกิน 2.50 ซม.สำหรับท่อน้ำขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางตั้งแต่ 80 ซม.ขึ้นไป ต้องจ่ายค่าทดแทนในการใช้ที่ดิน และในการรื้อถอนหรือตัดฟัน ให้แก่เจ้าของหรือผู้ครอบครองด้วยจำนวนเงินอันเป็นธรรม