นายกฯ และ รมว.กห.เผย ถก ส.ธนาคาร อธิบายกู้ 2 ล้านล้าน เหมือนขอกู้ทำบ้านทั้งหลังทีเดียว ทยอยจ่าย 7 ปี ยันหนี้สาธารณะไม่เกิน 50% พร้อมให้เวลาฝ่ายค้านซักเต็มที่ เผยอยู่ฟังแต่อาจไม่เข้าห้องประชุม โอ่ยังไม่เห็นเหตุต้องยุบสภา
วันนี้ (19 ก.ย.) ที่รัฐสภา เมื่อเวลา 09.10 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวถึงการหารือกับตัวแทนสมาคมธนาคารประเทศไทย ต่อกรณีการออกพระราชบัญญัติให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งของประเทศ พ.ศ.... หรือ พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท ว่าเป็นการถือโอกาสในการแลกเปลี่ยนกับสมาคมธนาคารไทย โดยในแง่ของธนาคารและนักลงทุน จริงๆ แล้วในส่วนของภาพรวมเศรษฐกิจการเติบโต เขาอยากเห็นการลงทุน โดยเฉพาะการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานที่จะก่อให้เกิดรายได้ เราจึงถือโอกาสนี้อธิบายเรื่องความจำเป็นในการออก พ.ร.บ.เงินกู้กับการใช้งบประมาณปกตินั้นแตกต่างกันอย่างไร ตนได้อธิบายว่าการใช้งบประมาณปกติ ถ้าเราพูดง่ายๆ เหมือนเรามีเงินเดือนต่อเดือนที่ชัดเจน เราจะรู้ว่ารายได้ต่อเดือนต้องนำเงินไปใช้จ่ายอะไรอย่างไร ค่าบ้าน ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่ารักษาพยาบาล ซึ่งเราก็จะเหลือก้อนหนึ่งที่ไม่มากนักทุกปีสำหรับที่จะนำไปปรับปรุงต่อเติมบ้านที่เราซื้อมาแล้วหลายปี ซึ่งบ้านอาจจะเก่าไปบ้าง อย่างเช่นปีนี้ทำห้องน้ำ เราอยากจะทำสัก 3 ห้อง อาจจะทำไม่ได้เลยทันที เราจะต้องทำได้เพียงปีละห้อง หรือถ้ามีลูกเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งคนก็กลายเป็นลักษณะของการต่อเติมห้อง แต่ไม่สามารถปรับหรือย้ายบ้านได้ นี่คือลักษณะของงบประมาณปกติ
นายกฯ อธิบายต่อว่า สำหรับการใช้พ.ร.บ.เงินกู้นั้นเหมือนเราขอกู้ธนาคารทีเดียว เพื่อที่จะนำมาปรับปรุงบ้านทั้งโครงสร้าง เพราะหากมีการต่อเติมบ้านอาจจะรองรับไม่ได้ในเรื่องของฐานบ้าน จึงขอกู้เงินทั้งก้อน แต่ขณะที่เรากู้ทั้งก้อน การเบิกจ่ายต้องให้เบิกจ่ายตามงวดซึ่งก็เหมือนกัน งบประมาณ 2 ล้านล้าน อาจจะดูเป็นวงเงินก้อนใหญ่ แต่การเบิกจ่ายจริงๆก็ทยอยเบิก 7 ปี และแน่นอนธนาคารเวลาให้กู้ต้องคำนึงถึงภาวะทางด้านการเงินด้วย ซึ่งก็คือวินัยการเงินการคลังของรัฐบาลนั่นเอง และกรอบของวินัยการเงินการคลังเราได้รักษากรอบตั้งแต่รัฐบาลที่แล้วคือ เรื่องสัดส่วนของหนี้ประมาณร้อยละ 60 วันนี้รัฐบาลได้ขีดไว้ประมาณครึ่งหนึ่งคือหนี้สาธารณะไม่เกินร้อยละ 50 ในส่วนนี้เราถือว่าเป็นวินัยการเงินการคลังที่จะพยายามรักษาไว้ แน่นอนว่าเหมือนการกู้ธนาคารต่างๆ ธนาคารต้องดูเครดิต ฉะนั้นเราต้องใช้การบริหารต่างๆ นี้ให้อยู่ในวินัยการเงินการคลัง นี่คือสิ่งที่เราได้อธิบายไป แต่นอกจากนี้เรายังได้มีโอกาสรับฟังข้อเสนอแนะต่างๆ ในการจะทำอย่างไรให้เกิดกานลงทุนที่จะทำให้เศรษฐกิจขับเคลื่อนไปได้
เมื่อถามว่า ห่วงว่าระหว่างการพิจารณาพ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท จะมีการตีรวนหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ถ้าอยู่ในกติกาตนคิดว่าทุกฝ่ายต้องอดทนและชี้แจงข้อมูลอย่างเต็มที่ ถามต่อว่ารัฐบาลยืนยันว่าจะเปิดกว้างให้ฝ่ายค้านอภิปรายได้เต็มที่ นายกฯ กล่าวว่า ยืนยันอยู่แล้ว และการอภิปรายก็มีผู้ที่จะสงวนคำแปรญัตติไปร้อยกว่าท่าน เราได้ให้เวลาอย่างเต็มที่ เมื่อซักต่อว่า นายกฯจะอยู่ฟังตลอดเลยหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ถ้าไม่ติดภารกิจก็อยู่ฟัง ต้องเรียนว่าอยู่ฟังอยู่แล้ว แต่อาจจะไม่ได้เห็นในห้องประชุมสภา เพราะในบริเวณสภาสามารถรับฟังและได้ยินตลอดเวลาอยู่แล้ว
เมื่อถามว่า ถ้าพ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท ไม่ผ่าน ยืนยันหรือไม่ว่าจะไม่ยุบสภา นายกฯ กล่าวว่า สิ่งที่เราพยายามที่จะเสนอคือการเสนอโครงสร้างการลงทุนในอนาคต ฉะนั้นการพูดถึงงบประมาณก้อนนี้ คือการลงทุนที่ก่อให้เกิดรายได้ เรายังไม่เห็นสาเหตุใด เพราะวันนี้เราทำตามขั้นตอนอยู่แล้ว
