ส.ส.เมืองคอนระบุสถานการณ์ม็อบยางรุนแรง เหตุรัฐบาลสร้างเงื่อนไข ต้องรับผิดชอบใช้กำลังสลาย ยัน ปชช.ชุมนุมเป็นสิทธิ-ไร้การเมืองชักใยตามที่รัฐฯ กล่าวหา จี้ทบทวนการใช้อำนาจ ชี้ พ.ร.บ.มั่นคงฯไร้ผล เหตุชาวบ้านไม่ถอย แนะฟังข้อเรียกร้องกำหนดราคาให้ชัด เลิกเกาไม่ถูกที่คัน จ่ายชดเชยชาวสวนไม่ได้ประโยชน์ ย้อน “วิสาร” เชื่อการเมืองชักใยอย่ามาคุย บี้รัฐบาลอย่าปัดสวะต้องลงแก้ปัญหาเอง ส.ส.พร้อมเป็นพี่เลี้ยง
วันนี้ (17 ก.ย.) นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการชุมนุมของเกษตรกรชาวสวนยางพารา ที่สี่แยกควนหนองหงษ์ อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช ว่าสถานการณ์กำลังรุนแรงขึ้นเพราะรัฐบาลสร้างเงื่อนไขการชุมนุมตั้งแต่ต้น มีการให้เจ้าหน้าที่รัฐใช้กำลังสลายการชุมนุมเป็นพฤติกรรมที่รัฐบาลต้องรับผิดชอบ การชุมนุมของประชาชนเป็นการชุมนุมอย่างอิสระไม่มีฝ่ายการเมืองอยู่เบื้องหลังตามที่รัฐบาลกล่าวหา แต่รัฐบาลกำลังใช้อำนาจรัฐ กฎหมาย คุกคามผู้ชุมนุม จึงขอให้ทบทวนแนวความคิดดังกล่าว เพราะการใช้ พ.ร.บ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยของนายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าฯ จ.นครศรีธรรมราช ไม่มีผลในทางปฏิบัติ แต่รัฐบาลยังมีความคิดที่จะใช้อำนาจรัฐโดยประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง ซึ่งเป็นการละเมิดสิทธิผู้ชุมนุม ซึ่งเชื่อว่าจะไม่มีผลในทางปฏิบัติ เพราะชาวบ้านอยู่ในพื้นที่เมื่อถูกสลายก็กลับบ้าน ตำรวจกลับไปชาวบ้านก็ออกมาอีก
“ดังนั้นสิ่งที่รัฐบาลต้องรับผิดชอบ คือ ความรุนแรงที่จะเกิดขึ้น และต้องรับฟังข้อเรียกร้องของผู้ชุมนุม การให้ค่าปัจจัยการผลิตเป็นเงิน 2,520 บาท เป็นการแก้ปัญหาไม่ถูกจุด เกาไม่ถูกที่คัน เพราะเกษตรกรต้องการให้กำหนดราคารับซื้อที่ชัดเจน เพราะการชดเชย 2,520 บาท ไม่มีผลต่อเกษตรกรส่วนใหญ่ เนื่องจากไม่ได้เป็นเจ้าของสวนยางพารา ผลประโยชน์จะตกอยู่กับนายทุน และเกษตรกรส่วนใหญ่ไม่มีเอกสารสิทธิในที่ดินที่จะยื่นแสดงหลักฐานต่อเจ้าหน้าที่ของรัฐเพื่อรับเงินชดเชย อีกทั้งการชดเชยในราคาดังกล่าวไม่มีหลักประกันให้ราคายางพาราคงที่ เพราะอาจลดลงไปเรื่อยๆ เหลือ 50 บาทก็ได้ ซึ่งจะทำให้เกษตรกรเสียประโยชน์” นายเทพไทกล่าว
นายเทพไทยังกล่าวถึงกรณีที่นายวิสาร เตชะธีรวัฒน์ รมช.มหาดไทย จะมาพบ ส.ส.นครศรีธรรมราช ที่พรรคประชาธิปัตย์ ว่าขอถามนายวิสารเกี่ยวกับคำพูดของคนในรัฐบาลที่กล่าวหาว่า การชุมนุมของเกษตรกรมีการเมืองอยู่เบื้องหลัง มีนายทุนกักตุนยางอยู่เบื้องหลัง ซึ่งนายวิสารต้องตอบว่าเชื่อข้อกล่าวหาเหล่านี้หรือไม่ ถ้าเชื่อก็เสียเวลาที่จะมาพูดคุยกัน แต่ถ้าไม่เชื่อต้องให้คนของรัฐบาลไปแก้ข่าวที่ใส่ร้ายชาวสวนยางพาราและฝ่ายการเมือง ดังนั้นหากจะให้ ส.ส.นครศรีธรรมราชลงไปแก้ปัญหาต้องบอกว่าเราไม่อยู่ในฐานะแก้ปัญหาเพราะเป็นหน้าที่รัฐบาล แต่ในฐานะ ส.ส.ไม่มีสิทธิทอดทิ้งประชาชนจะให้คำแนะนำและเป็นพี่เลี้ยงในการเจรจาของเกษตรกร แต่หน้าที่แก้ปัญหารัฐบาลต้องไปเจรจากับผู้ชุมนุม อย่าปัดสวะ หรือโยนการแก้ปัญหามาที่สภาผู้แทนราษฎร