กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แจ้งเตือนประชาชนในกาญจนบุรี ราชบุรี ระนอง และ พังงา ระวังดินถล่มและน้ำป่าไหลหลาก หลังฝนตกหนักต่อเนื่อง
วันนี้ (12 ก.ย.) นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวว่า จากการประสานข้อมูลกับกรมทรัพยากรธรณี พบว่า ฝนที่ตกหนักอย่างต่อเนื่องในระยะนี้ อาจส่งผลให้เกิดน้ำป่าไหลหลาก และทำให้ดินบนภูเขาที่ชุ่มน้ำอยู่แล้วถล่มลงมาได้ โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงภัย 4 จังหวัด ได้แก่ กาญจนบุรี (อำเภอสังขละบุรี ทองผาภูมิ ไทรโยค ด่านมะขามเตี้ย) ราชบุรี (อำเภอสวนผึ้ง บ้านคา) ระนอง (อำเภอเมืองระนอง กะเปอร์ สุขสำราญ ) พังงา (อำเภอคุระบุรี ตะกั่วป่า กะปง ตะกั่วทุ่ง ) ซึ่งมีฝนตกหนักต่อเนื่อง และบางพื้นที่วัดปริมาณน้ำฝนได้มากกว่า 150 มิลลิเมตร ทำให้มีความเสี่ยงต่อการเกิดดินถล่มและน้ำป่าไหลหลาก จึงขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยของจังหวัดดังกล่าวทั้งที่ลาดเชิงเขา ทางน้ำไหลผ่าน และที่ลุ่มริมแม่น้ำติดตามประกาศแจ้งเตือนภัยอย่างใกล้ชิด
นายฉัตรชัย กล่าวต่อว่า ปภ.ได้ประสานจังหวัด และ ปภ.เขต 2 สุพรรณบุรี เขต 18 ภูเก็ต จัดเจ้าหน้าที่และมิสเตอร์เตือนภัยติดตามปริมาณน้ำฝน จัดเตรียมเครื่องมืออุปกรณ์ประจำจุดเสี่ยงให้พร้อมเผชิญเหตุ และช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้ทันทีที่เกิดสถานการณ์ภัย และเฝ้าระวังสถานการณ์ภัยตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงพร้อมตรวจสอบฝาย อ่างเก็บน้ำ คันกั้นน้ำให้อยู่ในสภาพมั่นคงแข็งแรง และเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงภัยตามแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ โดยเฉพาะทะเลและน้ำตก ทั้งนี้ ประชาชนที่ประสบภัยสามารถติดต่อศูนย์ ปภ.ในพื้นที่ หรือสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง
วันนี้ (12 ก.ย.) นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวว่า จากการประสานข้อมูลกับกรมทรัพยากรธรณี พบว่า ฝนที่ตกหนักอย่างต่อเนื่องในระยะนี้ อาจส่งผลให้เกิดน้ำป่าไหลหลาก และทำให้ดินบนภูเขาที่ชุ่มน้ำอยู่แล้วถล่มลงมาได้ โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงภัย 4 จังหวัด ได้แก่ กาญจนบุรี (อำเภอสังขละบุรี ทองผาภูมิ ไทรโยค ด่านมะขามเตี้ย) ราชบุรี (อำเภอสวนผึ้ง บ้านคา) ระนอง (อำเภอเมืองระนอง กะเปอร์ สุขสำราญ ) พังงา (อำเภอคุระบุรี ตะกั่วป่า กะปง ตะกั่วทุ่ง ) ซึ่งมีฝนตกหนักต่อเนื่อง และบางพื้นที่วัดปริมาณน้ำฝนได้มากกว่า 150 มิลลิเมตร ทำให้มีความเสี่ยงต่อการเกิดดินถล่มและน้ำป่าไหลหลาก จึงขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยของจังหวัดดังกล่าวทั้งที่ลาดเชิงเขา ทางน้ำไหลผ่าน และที่ลุ่มริมแม่น้ำติดตามประกาศแจ้งเตือนภัยอย่างใกล้ชิด
นายฉัตรชัย กล่าวต่อว่า ปภ.ได้ประสานจังหวัด และ ปภ.เขต 2 สุพรรณบุรี เขต 18 ภูเก็ต จัดเจ้าหน้าที่และมิสเตอร์เตือนภัยติดตามปริมาณน้ำฝน จัดเตรียมเครื่องมืออุปกรณ์ประจำจุดเสี่ยงให้พร้อมเผชิญเหตุ และช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้ทันทีที่เกิดสถานการณ์ภัย และเฝ้าระวังสถานการณ์ภัยตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงพร้อมตรวจสอบฝาย อ่างเก็บน้ำ คันกั้นน้ำให้อยู่ในสภาพมั่นคงแข็งแรง และเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงภัยตามแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ โดยเฉพาะทะเลและน้ำตก ทั้งนี้ ประชาชนที่ประสบภัยสามารถติดต่อศูนย์ ปภ.ในพื้นที่ หรือสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง
