“รักษเกชา” แจงผู้ตรวจมีมติยุติเรื่อง “ณัฏฐ์” ดูคลิปโป๊ในสภา เห็นตาม คกก.จริยธรรมสภาฯ ยกคำร้อง ชี้การกระทำไม่ตั้งใจ ไม่ขัดประมวลจริยธรรม ชงความเห็น ปธ.รัฐสภา ให้กำชับสมาชิกยึดข้อบังคับ ยกข้อบังคับรัฐสภา ห้ามใช้เครื่องมือสื่อสารช่วงประชุม เผยคดีพาสปอร์ต นช.แม้ว รมว.กต.ขอขยายเวลาสอบ 30 วัน อ้างหลักฐานไม่พอ
วันนี้ (11 ก.ย.) นายรักษเกชา แฉ่ฉาย โฆษกสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีต ส.ว.สรรหา ยื่นขอให้ผู้ตรวจการแผ่นดิน ตรวจสอบกรณีนายณัฏฐ์ บรรทัดฐาน ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ ใช้เครื่องมือสื่อสารเปิดดูรูปภาพที่ไม่เหมาะสมขณะทำหน้าที่สมาชิกรัฐสภาว่า เรื่องนี้ที่ประชุมผู้ตรวจการแผ่นดินมีมติให้ยุติเรื่อง โดยเห็นตามที่คณะกรรมการจริยธรรมสภาผู้แทนราษฎรตรวจสอบแล้วมีมติเห็นควรให้ยกคำร้อง เนื่องจากเห็นว่าการกระทำดังกล่าวไม่ขัดต่อประมวลจริยธรรม เพราะเป็นการกระทำที่ไม่ได้ตั้งใจและไม่มีเจตนา แต่อย่างไรก็ตาม ผู้ตรวจการแผ่นดิน ได้ทำความเห็นไปยังประธานรัฐสภา ในฐานะผู้รับผิดชอบว่า ส.ส.และส.ว. เป็นผู้แทนของปวงชนชาวไทยจึงขอให้ประธานรัฐสภา ในการดูแล ควบคุม รักษาระเบียบและความเรียบร้อยตามข้อบังคับการประชุมรัฐสภา พ.ศ. 2553 เพื่อกำชับให้สมาชิกรัฐสภาปฏิบัติตามข้อบังคับดังกล่าวอย่างเคร่งครัด
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบข้อบังคับการประชุมรัฐสภา พ.ศ. 2553 หมวด 10 ว่าด้วยการรักษาระเบียบและความเรียบร้อย ข้อ 113 กำหนดห้ามไม่ให้สมาชิกรัฐสภา ใช้เครื่องมือสื่อสารใดๆ และห้ามสูบบุหรี่ในการประชุมรัฐสภา ซึ่งข้อบังคับดังกล่าว ก็มีอยู่ทั้งในข้อบังคับการประชุมของ ส.ส.และส.ว. ด้วย
นายรักษเกชายังกล่าวถึงความคืบหน้ากรณีผู้ตรวจการแผ่นดินมีหนังสือขอให้นายกรัฐมนตรีพิจารณาเกี่ยวกับการที่กระทรวงการต่างประเทศไม่ทบทวนการออกหนังสือเดินทางให้แก่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นนักโทษหนีคดี ว่าหลังจากที่มีรัฐบาลมีการเปลี่ยนแปลงรองนายกฯ ที่กำกับดูแลกระทรวงการต่างประเทศ มาเป็นนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ล่าสุดทางสำนักนายกรัฐมนตรีได้มีหนังสือแจ้งกลับมายังผู้ตรวจฯ ว่า นายสุรพงษ์ได้มีคำสั่งตั้งคณะทำงานขึ้นมาศึกษาระเบียบกระทรวงการต่างประเทศว่าด้วยการออกหนังสือเดินทาง พ.ศ. 2548 และเมื่อผู้ตรวจฯเข้าไปตรวจสอบก็พบว่ามีการตั้งคณะทำงานขึ้นมาจริง โดยทางสำนักนายกฯ อ้างว่าข้อมูลที่กระทรวงการต่างประเทศส่งมาให้คณะทำงาน ยังไม่เพียงพอ อีกทั้งจำเป็นที่จะต้องมีการศึกษาทั้งข้อกฎหมายและข้อเท็จจริงให้ปรากฏก่อน จึงมีหนังสือขอขยายระยะเวลามายังผู้ตรวจการแผ่นดิน ซึ่งผู้ตรวจการแผ่นดินก็ได้มีมติให้มีการขยายเวลาได้ตามที่ร้องขออีก 30 วัน