กลุ่มเกษตรกรอีสาน 300 คน โผล่หน้าทำเนียบ ยื่นหนังสือให้ช่วยชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากโครงการรัฐบาล ทำเสียสิทธิ์ที่ทำกิน ขอคำตอบที่ชัด “สุภรณ์” รับเรื่อง พร้อมจัดประชุมร่วมข้าราชการพรุ่งนี้
วันนี้ (10 ก.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล สมัชชาเกษตรกรภาคอีสาน (สกอ.) สมาพันธ์เกษตรกรอีสาน (สพอ.) ประมาณ 300 คน นำโดย นายศักดา กาญจนเสน ประธาน สกอ.และนางบุรี อาจโยธา ประธาน สพอ.ได้ชุมนุมบริเวณประตู 4 ทำเนียบรัฐบาล เพื่อยื่นหนังสือถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ และ รมว.กลาโหม เพื่อให้ดำเนินการช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ภาคอีสานหลายจังหวัด อาทิ จ.สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี อุดรธานี ชัยภูมิ กาฬสินธุ์ และ ยโสธร ที่ได้รับผลกระทบจากการดำเนินการโครงการของรัฐ อาทิ โครงการฝายราษีไศล โครงการไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนลำปะทาว และกรณีสวนป่าทับที่ดินทำกิน เช่น สวนป่าห้วยจันทร์ สวนป่าขุนหาญ เป็นต้น ซึ่งโครงการเหล่านี้ ทำให้ประชาชนเสียสิทธิ์ในการใช้ประโยชน์ในที่ดินทำกินของตนเป็นเวลายาวนาน โดยมี นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง เป็นผู้รับหนังสือแทน
โดย นายสุภรณ์ กล่าวว่า ในส่วนของฝายราษีไศล นั้น ขณะนี้ได้มีการแต่งตั้ง พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกฯ เป็นประธานคณะกรรมการแก้ไขปัญหาผลกระทบจากโครงการฝายราษีไศลแล้ว และกรมชลประทาน ที่เป็นฝ่ายเลขาฯ ของคณะกรรมการดังกล่าว จะจัดให้มีการประชุมภายในเดือน ต.ค.
ขณะที่ นายศักดา กล่าวว่า การที่ผู้ชุมนุมจะเดินทางกลับก็อยากมีคำตอบที่ชัดเจนจากรัฐบาลในการแก้ปัญหา จึงอยากให้มีการจัดประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมีตัวแทนจากกระทรวง มหาดไทย พลังงาน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และผู้ว่าราชการจังหวัดในพื้นที่ ทั้ง อุบลราชธานี อุดรธานี และ ชัยภูมิ เข้าร่วมประชุม และให้ นายสุภรณ์ เป็นประธานในที่ประชุม และให้เป็นผู้ติดตามความคืบหน้าการดำเนินการ โดย นายสุภรณ์ ก็รับปากที่จะดำเนินการและจะจัดให้มีการประชุมในวันที่ 11 ก.ย.
วันนี้ (10 ก.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล สมัชชาเกษตรกรภาคอีสาน (สกอ.) สมาพันธ์เกษตรกรอีสาน (สพอ.) ประมาณ 300 คน นำโดย นายศักดา กาญจนเสน ประธาน สกอ.และนางบุรี อาจโยธา ประธาน สพอ.ได้ชุมนุมบริเวณประตู 4 ทำเนียบรัฐบาล เพื่อยื่นหนังสือถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ และ รมว.กลาโหม เพื่อให้ดำเนินการช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ภาคอีสานหลายจังหวัด อาทิ จ.สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี อุดรธานี ชัยภูมิ กาฬสินธุ์ และ ยโสธร ที่ได้รับผลกระทบจากการดำเนินการโครงการของรัฐ อาทิ โครงการฝายราษีไศล โครงการไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนลำปะทาว และกรณีสวนป่าทับที่ดินทำกิน เช่น สวนป่าห้วยจันทร์ สวนป่าขุนหาญ เป็นต้น ซึ่งโครงการเหล่านี้ ทำให้ประชาชนเสียสิทธิ์ในการใช้ประโยชน์ในที่ดินทำกินของตนเป็นเวลายาวนาน โดยมี นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง เป็นผู้รับหนังสือแทน
โดย นายสุภรณ์ กล่าวว่า ในส่วนของฝายราษีไศล นั้น ขณะนี้ได้มีการแต่งตั้ง พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกฯ เป็นประธานคณะกรรมการแก้ไขปัญหาผลกระทบจากโครงการฝายราษีไศลแล้ว และกรมชลประทาน ที่เป็นฝ่ายเลขาฯ ของคณะกรรมการดังกล่าว จะจัดให้มีการประชุมภายในเดือน ต.ค.
ขณะที่ นายศักดา กล่าวว่า การที่ผู้ชุมนุมจะเดินทางกลับก็อยากมีคำตอบที่ชัดเจนจากรัฐบาลในการแก้ปัญหา จึงอยากให้มีการจัดประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมีตัวแทนจากกระทรวง มหาดไทย พลังงาน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และผู้ว่าราชการจังหวัดในพื้นที่ ทั้ง อุบลราชธานี อุดรธานี และ ชัยภูมิ เข้าร่วมประชุม และให้ นายสุภรณ์ เป็นประธานในที่ประชุม และให้เป็นผู้ติดตามความคืบหน้าการดำเนินการ โดย นายสุภรณ์ ก็รับปากที่จะดำเนินการและจะจัดให้มีการประชุมในวันที่ 11 ก.ย.