ส.ส.ใต้ ประชาธิปัตย์ แถลงซัดตำรวจพยายามสลายม็อบสวนยางสวนทาง "ประชา" จ้อ แถมจับไปอีก 12 ผู้ชุมนุม ไม่ได้ประกันตัว จี้ต้องให้ประกัน ยันไม่ใช้ฆาตกรแค่เดือดร้อน นัดลงพื้นที่พรุ่งนี้ จวกลุยไม่ทำตามขั้นตอน เชื่อคนมีอำนาจเหนือนายกฯ สั่งไม่ให้ช่วย รอดูท่าทีรัฐแก้ยังไง ขู่หลัง 10 ก.ย.ไม่จบยกระดับสู้ไม่นั่งดูอย่างเดียว
วันนี้ (6 ก.ย.) ที่รัฐสภา นายถาวร เสนเนียม รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วยนายวิรัตน์ กัลยาศิริ ส.ส.สงขลา และนายวิทยา แก้วภราดัย ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ร่วมกันแถลงข่าวกรณีการสลายการชุมนุมม็อบชาวสวนยางในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เมื่อวันที่ 5 ก.ย.ที่ผ่านมานั้น โดยนายถาวร กล่าวว่า การเข้าสลายการชุมนุมของเจ้าหน้าที่ตำรวย และเจ้าหน้าที่อื่นภายใต้การสั่งการของรัฐบาล ทำให้เกิดการบาดเจ็บทั้งผู้ชุมนุม และเจ้าหน้าที่ ซึ่งเป็นการกระทำที่สวนทางกับคำพูดของ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตรี นอกจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจยังมีการควบคุมตัวผู้ชุมนุมไป 12 คน โดยมีการนำตัวไปขังในค่ายตำรวจตระเวนชายแดน(ตชด.) และเมื่อมีการไปติดต่อขอประกันตัว กลับถูกปฏิเสธ จึงอยากฝากถึง พล.ต.อ.ประชา ในฐานะที่กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) และ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.อนุญาตให้ประกันตัวผู้ชุมนุมที่ถูกจับตัวไปทั้ง 12 คน เพราะคนที่มาชุมนุมคือคนที่เดือดร้อน ไม่ใช่ฆาตกร ไม่ใช่บุคคลอันตรายที่จะต้องไม่ให้ประกันตัวทั้งนี้ในวันที่ 7-8 ก.ย.นี้ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์จะลงพื้นที่เพื่อรับฟังปัญหา และข้อเสนอของชาวสวนยาง เพื่อนำข้อมูลมาประชุมกันในวันที่10 ก.ย.เพื่อหาทางแก้ปัญหาต่อไป
นายวิทยา กล่าวว่า การสลายการชุมนุมไม่ได้เป็นไปตามขั้นตอน ไม่มีการพูดคุยเกลี้ยกล่อมผู้ชุมนุม จึงเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง และกลายเป็นว่ารัฐบาลใช้กำลังตำรวจมาทำสงครามกับประชาชน ทั้งนี้การที่มีรัฐมนตรีมารับฟังข้อเรียกร้องของเกษตรกรแต่ทุกครั้งกลับไม่ได้รับความช่วยเหลือนั้น ตนเห็นว่าเป็นเพราะคนที่มีอำนาจเหนือนายกรัฐมนตรี สั่งไม่ให้ช่วยเหลือชาวสวนยาง อย่างไรก็ตามตนจะรอดูท่าทีของรัฐบาลว่าจะแก้ปัญหาหรือไม่ หากภายในวันที่10 ก.ย. รัฐบาลยังคงมีการกลั่นแกล้งชาวสวนยาง ไม่รับฟังความเดือดร้อนประชาชน ส.ส.ก็จะยกระดับการต่อสู้ ซึ่งตนก็จะไม่นั่งดูอย่างเดียวอีกแล้ว
นายวิรัตน์ กล่าวว่า ผู้ชุมนุมทั้ง 12 คนที่ถูกจับกุมตัวนั้น เนื่องจากเป็นผู้ที่ขึ้นไปปราศรัยบนเวที ซึ่งตนยืนยันว่า การปราศรัยบนเวทีนั้น เป็นสิทธิที่สามารถทำได้ เพราะเป็นการชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธ ซึ่งเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ แต่การที่เจ้าหน้าที่ใช้กำลังเข้าสลายการชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธ จึงถือเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ซึ่งต้องรอข้อสรุปจากการประชุมของ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ที่ได้ลงพื้นที่รับฟังความเดือดร้อน ในวันที่ 10ก.ย.ก่อน จึงจะมีการกำหนดการดำเนินการกับเจ้าหน้าที่อย่างชัดเจนได้