ส.ส.กทม.เพื่อไทย ยันรัฐบาลไม่เร่งรีบพิจารณาแก้ไข รธน.ชี้ต่างจากสมัย ปชป. ใช้เวลาอภิปรายแค่ 17 ชม.เชื่อ ปชป.เดินเกม 3 ขาหวังล้มรัฐบาล อีกด้านยุติสอบคลิปเสียงผู้ว่าฯ อุบลราชธานี
วันนี้ (28 ส.ค.) นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ขณะนี้พรรคเพื่อไทยได้ประเมินสถานการณ์การอภิปรายประชุมร่วมกว่า 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา พบว่า ฝ่ายค้านไม่ได้แสดงเนื้อหาในความจำเป็นที่เปลี่ยนระบบ ส.ว.สรรหา มาเป็น ส.ว.เลือกตั้ง พร้อมยืนยันว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญในครั้งนี้ จะไม่เร่งรีบ ซึ่งต่างจากรัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อครั้งแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 93, 94 และ 190 ซึ่งพรรคเพื่อไทยเป็นฝ่ายค้านในขณะนั้น ใช้เวลาในการอภิปรายเพียง 17 ชั่วโมง และมีการอภิปรายเป็นไปอย่างเรียบร้อย แต่การแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้กลับยืดเยื้อ พรรคประชาธิปัตย์ใช้เวลามาแล้วกว่า 40 ชั่วโมง
ทั้งนี้ เรียกร้องให้พิจารณาในการใช้วาทกรรมที่ว่า เผด็จการเสียงข้างมาก เนื่องจากจะส่งผลกระทบต่อการวินิจฉัย และการทำหน้าที่ของศาล เพราะปกติศาลต้องใช้ดุลยพินิจในลักษณะเสียงข้างมากเช่นกัน ซึ่งหากพูดเช่นนี้จะเป็นการกล่าวหากระบวนการยุติธรรม ส่วนการประชุมสภาฯ ในสัปดาห์หน้า วันจันทร์และอังคาร จะเป็นการประชุม ส.ว.ส่วนที่เหลือยังไม่มีความชัดเจน ซึ่งจะต้องมีการหารือกันอีกครั้ง
นายจิรายุ กล่าวต่อว่า ขณะนี้พบว่าการทำงานของพรรคประชาธิปัตย์ กำลังเดินสามขา ขาที่หนึ่ง การปลุกปั่นความวุ่นวายในสภาฯ สองคือการเติมคนในการชุมนุมที่สวนลุมพินี หลอกเยาวชนเข้าไปชุมนุม และเกิดความรุนแรง และสามคือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับการชุมนุมกับม็อบสวนยางภาคใต้ ตนจึงอยากขอร้องให้มาต่อสู้ในสภาฯ
นายจิรายุ ยังกล่าวถึงคดีคลิปเสียงของผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี อีกว่า ในฐานะโฆษกกรรมาธิการการกฎหมาย ยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน ในที่ประชุมกรรมาธิการ ปรากฏว่าผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ไม่ได้มาชี้แจง บอกแจ้งว่าคลิปดังกล่าวเป็นการตัดต่อ ดังนั้น คณะกรรมาธิการกฎหมายฯ จึงยุติการพิจารณาไปก่อน เพื่อรอการพิจารณาของตำรวจในการสืบสวนสอบสวนต่อไป