นายกฯ ตะลอนกองทัพอากาศ เผยรัฐบาลยินดีสนับสนุนการวางยุทธศาสตร์กองทัพอากาศ อยากเห็นอุตสาหกรรมการบินเกิดขึ้น หวังทำงานร่วมกันกับ ปภ.-กบอ.ช่วยน้ำท่วม อีกด้านเผย ติดตามสถานการณ์อียิปต์ สั่ง กต.บูรณาการช่วยคนไทย ลั่นฉุกเฉินต้องการให้ส่งตัวกลับไทยก็ยินดี
วันนี้ (16 ส.ค.) ที่กองทัพอากาศ เมื่อเวลา 14.30 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เดินทางถึงกองบัญชาการกองทัพอากาศ เขตดอนเมือง เพื่อตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายอย่างเป็นทางการ ในโอกาสรับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โดยมี พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผู้บัญชาการทหารอากาศให้การต้อนรับ ทั้งนี้นายกฯได้ตรวจแถวกองทหารเกียรติยศ โดยมีการแสดงโชว์เครื่องบินเอฟ 16 บิน เพื่อเป็นเกียรติด้วย จากนั้นได้วางพวงมาลาที่อนุสาวรีย์ทหารอากาศ และวางพานพุ่มถวายสักการะอนุสาวรีย์จอมพลสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอเจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนารถ กรมหลวงพิศณุโลกประชานารถ พระบิดากองทัพอากาศ และรับฟังบรรยายสรุปภารกิจการดำเนินงาน ปัญหาการทำงานของกองทัพอากาศ
จากนั้นเวลา 15.55 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ แถลงภายหลังการรับฟังบรรยายว่า วันนี้ได้มีโอกาสเข้ามาเยี่ยมกองทัพอากาศเป็นครั้งแรก ตั้งแต่รับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ขอขอบคุณกองทัพอากาศที่ทำงานร่วมกับรัฐบาลอย่างดี และถือโอกาสนี้รับฟังปัญหาต่างๆ ของกองทัพ เพื่อทำงานสนับสนุนซึ่งกันและกัน และเบื้องต้นได้ให้นโยบายการทำงานระหว่างรัฐบาลและกองทัพ โดยจะใช้บทบาทในฐานะเป็นนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น
น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวต่อว่า นอกเหนือในส่วนการทำงานในการเสริมสร้างความเข้มแข็งของกองทัพอากาศแล้ว ยังมียุทธศาสตร์ให้ไทยมีกองทัพอากาศชั้นนำในภูมิภาค ซึ่งเห็นความจำเป็นต้องพัฒนาและวางแผนการเตรียมความพร้อม ไม่ว่าจะเป็นความชำนาญของบุคลากร และอาวุธต่างๆ รัฐบาลยินดีสนับสนุนการวางยุทธศาสตร์ระยะยาว อีกทั้งอยากเห็นอุตสาหกรรมการบินเกิดขึ้นในประเทศไทย โดยต้องการให้มีการจัดนิทรรศการการเรียนรู้เกี่ยวกับอุตสาหกรรมการบินด้วย สำหรับเรื่องของงานพัฒนานั้น ไม่ว่าจะเป็นการแก้ไขปัญหาบรรเทาสาธารณภัย ก็อยากเห็นกองทัพอากาศทำงานร่วมกันกับ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย หรือ ปภ.และคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย หรือ กบอ.ในการเข้าไปช่วยเหลือประชาชน ถ้ามีการบูรณาการกันก็สามารถใช้อุปกรณ์และกำลังพลของกองทัพอากาศเข้าเสริม ด้วยดี เช่น การทำฝนหลวง การควบคุมไฟป่า หรือแก้ปัญหาหมอกควัน นอกจากนี้กองทัพอากาศยังมีเครื่องบินยูเอวีที่ใช้ประโยชน์ด้านการรวบรวม ข้อมูลเพื่อการบูรณาการแผนที่ ใช้ดูแลการจัดโซนนิงการเกษตรด้วย และสำหรับภาพรวมการศึกษาวิจัยก็เห็นว่าต้องมีการบูรณาการทุกเหล่าทัพเพื่อใช้ ประโยชน์ลดความซ้ำซ่อน ถือเป็นการลดต้นทุนในอนาคตด้วย
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงสถานการณ์ความไม่สงบในเหตุการณ์การสลายการชุมนุมที่อียิปต์ ว่า เบื้องต้นกระทรวงการต่างประเทศได้ตั้งหน่วยงานในการดูแลประชาชนคนไทยในอียิปต์แล้ว และเราจะคอยติดตามสถานการณ์เป็นระยะๆ ด้วยความห่วงใย ซึ่งเรื่องของการดูแลเราจะมีขั้นตอน เช่น ถ้าอยู่ในสถานการณ์ปกติจะต้องดูแลอย่างไร และถ้าอยู่ในสถานการณ์รุนแรงขึ้นเราจะมีการเตรียมความพร้อมอย่างไร โดยทั้งหมดนี้กระทรวงการต่างประเทศมีการบูรณาการร่วมกับทุกหน่วยงานในการช่วยคนไทย และการช่วยให้คนไทยกลับประเทศ ส่วนเรื่องการอพยพนั้น รัฐบาลได้มีการประสานงานกับสายการบินไว้แล้ว หากเกิดกรณีฉุกเฉินขึ้น เราก็จะมีขั้นตอนที่คล้ายกับการบรรเทาสาธารณภัย โดยไล่ไปตามลำดับของสถานการณ์ 1 2 3 ซึ่งเรามี อย่างไรก็ตามถ้าญาติพี่น้องของคนไทยมีความรู้สึกไม่สบายใจขอให้ติดต่อไปยังสถานทูตไทย ซึ่งเราเองมีความยินดีเข้าไปช่วยเหลือ หากต้องการให้ส่งตัวกลับมาเราก็ยินดี แต่ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานว่ามีคนไทยต้องการกลับประเทศ
ผู้สื่อข่าวถามว่าสถานการณ์ในขณะนี้ได้ประเมินถึงความจำเป็นหรือไม่ว่าต้องอพยพคนไทยออกจากอียิปต์ไม่หรือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า เราคงจะต้องประเมินสถานการณ์เป็นรายพื้นที่ และขณะนี้เราขอให้กระทรวงการต่างประเทศติดตามข่าวสาร และได้มีการตั้งหน่วยงานเตรียมความพร้อมไว้ตลอดเวลา
