รองประธานสภาฯ อ้างฝ่ายค้านไม่ได้ทำหนังสือขอให้ถ่ายทอดสดการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ทางช่อง 11 จึงไม่ได้จัดให้ ส่วนสื่อทีวีอื่นสามารถถ่ายทอดสดเองได้ แต่ต้องรับผิดชอบเองหากเกิดปัญหา ยันเดินน้าถกนิรโทษฯ แม้ฝ่ายค้านวอล์กเอาต์
นายเจริญ จรรย์โกมล รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ชี้แจงกรณีการไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนถ่ายทอดสดการประชุมสภาระหว่างพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมว่า ฝ่ายค้านได้มีหนังสือมาหาตนขอให้มีการถ่ายทอดสด แต่ตนเห็นว่าเป็นการพิจารณากฎหมายตามปกติจะไม่มีการถ่ายทอด จึงไม่ได้มีคำสั่งให้มีการถ่ายทอดทางช่อง 11 แต่ในส่วนของทีวีสภาผ่านดาวเทียม 3 ช่องยังมีการถ่ายทอดเป็นปกติอยู่แล้ว ซึ่งสื่อมวลชนสามารถเชื่อมสัญญาณถ่ายทอดต่อได้ หรือจะถ่ายทอดเองในห้องประชุมก็ได้ เพียงแต่ต้องรับผิดชอบหากเกิดปัญหาภายหลัง ทางสภาไม่ได้ห้าม แต่หากอันไหนประธานสภาอนุญาตก็จะได้รับความคุ้มครอง ดังนั้นจึงอยากทำความเข้าใจว่าไม่ได้ปิดกั้นไม่ให้สื่อมวลชนเสนอข่าวเพราะให้เป็นนโยบายไว้อยู่แล้วว่าให้สื่อมวลชนสามารถทำข่าวได้เต็มที่
ส่วนที่วิปฝ่ายค้านระบุว่าจะมีการอภิปรายร่าง พ.ร.บ.นี้อย่างเต็มที่นั้น นายเจริญกล่าวว่า เป็นเรื่องที่วิปรัฐบาลและวิปฝ่ายค้านจะต้องพูดคุยตกลงกัน โดยปกติวิปทั้งสองฝ่ายจะมีการเสนอต่อประธานในที่ประชุมว่าแต่ละฝ่ายจะอภิปรายได้มากน้อยเท่าใด สมาชิกจะอภิปรายได้คนละกี่นาทีโดยจะมีการจัดลำดับการอภิปรายสลับกันไป ส่วนเนื้อหาประธานในที่ประชุมจะเป็นผู้ดูแล โดยทุกอย่างต้องเป็นไปตามข้อบังคับการประชุม แต่ล่าสุดได้สอบถามกับวิปรัฐบาลแล้วว่าวิปฝ่ายค้านปฏิเสธที่จะพูดคุย อย่างไรก็ตาม เมื่อเปิดการประชุมตนจะพยายามสร้างบรรยากาศให้มีการพูดคุยได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากฝ่ายค้านมีการวอร์คเอ้าท์จากห้องประชุมจะเดินหน้าให้มีการพิจารณาต่อไปหรือไม่ นายเจริญกล่าวว่า ก็เป็นไปตามข้อบังคับการประชุม สมัยที่พรรคเพื่อไทยเป็นฝ่ายค้านแล้ววอล์กเอาต์ อีกฝ่ายหนึ่งซึ่งเป็นรัฐบาลก็เดินหน้าพิจารณาร่างกฎหมายต่อ ส่วนการดูแลความวุ่นวายในห้องประชุมนั้นประธานสภาได้ซักซ้อมเจ้าหน้าที่แล้วว่าถ้าประธานสั่งการแล้วจะทำอย่างไรบ้าง แต่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจะไม่เข้ามาในห้องประชุมสภาจนกว่าประธานสภาจะสั่ง และเมื่อมีคำสั่งอย่างใดอย่างหนึ่งต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัด อย่างไรก็ตาม ตนไมได้เป็นห่วงสถานการณ์ภายในห้องประชุม แต่เป็นห่วงสถานการณ์ข้างออกสภามากกว่า
