xs
xsm
sm
md
lg

ผลการประชุมคณะรัฐมนตรี 30 ก.ค. 2556

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายภักดีหาญส์ หิมะทองคำ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (ภาพจากแฟ้ม)
• นายกฯ สั่งเยียวยาน้ำท่วมเหนือ-อีสาน ตายศพละ 2.5 หมื่น เจ็บ 3 พัน

ที่ทำเนียบรัฐบาล ร.ท.หญิง สุณิสา เลิศภควัต รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงสถานการณ์น้ำท่วมพื้นที่ภาคเหนือ และตะวันออกเฉียงเหนือ ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ได้รับทราบปัญหาที่เกิดขึ้น โดยรู้สึกห่วงใยประชาชนที่ประสบอุทกภัยครั้งนี้ จึงได้สั่งการให้ส่วนราชการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดูแลแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นการเร่งด่วน ซึ่งเบื้องต้นอนุมัติค่าทำศพสำหรับผู้เสียชีวิตรายละ 25,000 บาท หากเป็นหัวหน้าครอบครัว ให้เพิ่มอีก 25,000 บาท ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บที่รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล ให้ค่ารักษาเบื้องต้นรายละ 3,000 บาท พร้อมจัดหาที่อยู่ชั่วคราวและอาหาร 3 มื้อ ให้สำหรับผู้ที่ยังไม่สามารถกลับเข้าบ้านได้ อย่างไรก็ตามกระทรวงมหาดไทย รายงานว่า ยังไม่มีผู้ไร้ที่อยู่ถาวรขณะนี้

ส่วนโรงเรียนที่ อ.แม่สอด ที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์สร้างขึ้น ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ได้อนุมัติงบประมาณ 5 ล้านบาท สำหรับสร้างโรงเรียนใหม่ โดยทางจังหวัดจะจัดหาพื้นที่สร้างโรงเรียนใหม่ จำนวน 9 ห้องเรียน ซึ่งเมื่อแล้วเสร็จจะสามารถรองรับนักเรียนได้ 200-300 คน ระยะเวลาก่อสร้าง 6 เดือน

ร.ท.หญิง สุณิสา กล่าวด้วยว่า สำหรับพื้นที่ 7 จังหวัด 14 อำเภอที่ได้รับผลกระทบ ได้แก่ จ.ตาก น่าน เชียงราย พะเยา สกลนคร และปราจีนบุรี ประชาชนได้รับความเดือดร้อนจำนวนกว่า 20,000 ครัวเรือน เนื่องจากปริมาณฝนที่ตกเกินวันละ 100 มิลลิเมตร เกินความสามารถการระบายน้ำได้ ประกอบกับการตัดไม้ทำลายป่า และการสร้างบ้านเรือนกีดขวางทางน้ำ ซึ่งความเสียหายยังไม่สามารถประเมินได้ ต้องรอให้น้ำลดก่อน ส่วนการช่วยเหลือกรมป้งกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ส่งเรือท้องแบน 21 ลำ พร้อมเสบียงและเจ้าหน้าที่ไปช่วยเหลือแล้ว ทั้งนี้จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ประชุมอยากให้ทุกฝ่ายตระหนักถึงปัญหาการตัดไม้ทำลายป่า และการสร้างบ้านเรือนกีดขวางทางน้ำให้มากขึ้นด้วย

เยียวยาโรงแรมกระทบค่าแรง 300 บาท ลดค่าธรรมเนียม 3 ปี

ร.ท.หญิง สุณิสา เปิดเผยด้วยว่า ที่ประชุม ครม.มีมติอนุมัติในหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียม หลักเกณฑ์ และวิธีการชำระค่าธรรมเนียมสำหรับการประกอบธุรกิจโรงแรม เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากการประกาศปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาทต่อวัน โดยให้ดำเนินการลดค่าธรรมเนียมสำหรับการประกอบธุรกิจโรงแรมลง 50 เปอร์เซ็นต์ จากเดิมปีละ 80 บาทต่อห้อง เหลือปีละ 40 บาทต่อห้อง เป็นระยะเวลา 3 ปี

แก้ไขร่าง พ.ร.บ.กองอาสารักษาดินแดน ให้ทายาทได้รับบำนาญพิเศษ

ร.ท.หญิง สุณิสา ยังได้กล่าวด้วยว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.กองอาสารักษาดินแดน (ฉบับที่..) พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป ทั้งนี้ได้มีการแก้ไขเนื้อหาเพื่อให้ทายาทสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน (อส.) ที่มีสิทธิได้รับบำนาญพิเศษ เพราะเหตุพิการทุพพลภาพเนื่องจากการปฏิบัตหน้าที่ จนต่อมาถึงแก่ความตาย หลังจากแก้ไขแล้วทายาทจะได้รับบำเหน็จตกทอดเป็นจำนวนเงิน 30 เท่าของบำนาญพิเศษรายเดือนเหมือนสิทธิที่ทายาทข้าราชการได้รับ

มท.รายงานแก๊งทวงหนี้นอกระบบ ภาคอีสานเยอะสุด

นอกจากนี้ ร.ท.หญิง สุณิสา ยังได้แถลงด้วยว่า กระทรวงมหาดไทยรายงานการกวดขันแก๊งปล่อยเงินกู้นอกและแก๊งทวงหนี้นอกระบบที่เข้าข่ายผิดกฎหมาย เก็บดอกเบี้ยในอัตราที่สูงกว่ากำหนด ซึ่งจากรายงานปัจจุบันมีจำนวน 825 ราย จาก 68 จังหวัด แบ่งเป็นผู้มีอิทธิพลภาคเหนือ 16 จังหวัด 140 ราย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 20 จังหวัด 306 ราย ภาคกลาง 13 จังหวัด 125 ราย ภาคตะวันออก 7 จังหวัด 195 ราย ภาคใต้ 12 จังหวัด 59 ราย ซึ่งเหลืออีก 9 จังหวัด รวมกรุงเทพมหานครที่ยังไม่มีการรายงาน ทั้งนี้ ในส่วนของประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากการทวงหนี้ ได้รับความรุนแรง หรือมีเบาะแส สามารถแจ้งได้ที่ศูนย์อำนวยความเป็นธรรม กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ได้ 24 ชั่วโมง หมายเลขโทรศัพท์ 02-356-9561

เห็นชอบแก้ไขร่าง พ.ร.ฎ.องค์การคลังสินค้า

ด้าน นายภักดีหาญส์ หิมะทองคำ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้แถลงถึงมติ ครม.ที่เห็นชอบร่าง พ.ร.ฎ.จัดตั้งองค์การคลังสินค้า พ.ศ....ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ตรวจพิจารณาแล้ว และให้ดำเนินการต่อไปได้สำหรับสาระสำคัญของร่าง พ.ร.ฎ.ดังกล่าว ประกอบด้วย การยกเลิก พ.ร.ฎ.จัดตั้งองค์การคลังสินค้า พ.ศ.2498 และที่แก้ไขเพิ่มเติม โดยให้จัดตั้งองค์การขึ้น เรียกว่า “องค์การคลังสินค้า” เรียกโดยย่อว่า “อคส.” มีวัตถุประสงค์เพื่อดำเนินกิจการทั้งปวงที่เกี่ยวกับสินค้าเกษตร และสินค้าอุปโภคบริโภค

ทั้งนี้ ให้มีคณะกรรมการองค์การคลังสินค้า ประกอบด้วย ประธานกรรมการ รองประธานกรรมการ และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ซึ่งคณะรัฐมนตรีแต่งตั้งโดยมีวาระการดำรงตำแหน่งคราวละ 3 ปี และมีผู้อำนวยการเป็นกรรมการและเลขานุการ มีอำนาจและหน้าที่ควบคุมดูแล อคส.ให้ดำเนินกิจการตามที่กำหนดไว้ในวัตถุประสงค์และอำนาจหน้าที่ และมีอำนาจหน้าที่กำหนดนโยบายและให้ความเห็นชอบแผนการดำเนินงานของ อคส. ควบคุมการดำเนินงานและการบริหารงานโดยทั่วไปของ อคส.พร้อมกันนี้ ให้อคส.มีผู้อำนวยการคนหนึ่งซึ่งมาจากการจ้าง โดยคณะกรรมการเป็นผู้มีอำนาจจ้าง และเลิกจ้างผู้อำนวยการด้วยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี และให้รัฐมนตรีมีอำนาจและหน้าที่ควบคุมดูแลโดยทั่วไปซึ่งกิจการของ อคส.

รับทราบ กสม.เสนอทบทวนให้บริการขั้นพื้นฐานทุกระบบ

นายภักดีหาญส์ กล่าวต่อว่า ที่ประชุมได้รับทราบข้อเสนอคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติที่ได้เสนอแนะเชิงนโยบายต่างๆ อาทิ ให้ทางกระทรวงสาธารณสุขสมควรทบทวนแนวคิด และวิธีจัดบริการและระบบบริการสาธารณสุขของประเทศบนความเสมอภาค โดยให้เป็นบริการขั้นพื้นฐานและขั้นจำเป็นที่คนไม่ว่าอยู่ภายใต้ระบบบริหารสาธารณสุขใด พึงได้รับโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ส่วนผู้รับบริการหรือผู้มีสิทธิ์ที่มีกองทุนหรือระบบบริการสาธารณสุขอื่นดูแลโดยเฉพาะ สามารถได้รับบริการสุขภาพหรือสาธารณสุขอื่นเพิ่มเติมด้วย

นอกจากนี้ให้กระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สมควรทบทวนนโยบายปฏิรูประบบสาธารณสุขแก่ผู้บริหารองค์กรด้านสุขภาพ อาทิ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการเสริมสร้างสุขภาพ (สสส.) สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) โรงพยาบาลบ้านแพ้ว (องค์กรมหาชน) เป็นต้น โดยการตั้งคณะกรรมการนโยบายสุขภาพแห่งชาติขึ้นมาดูแลระบบสาธารณสุขทั้งหมดนั้น เห็นว่าควรตระหนักและให้ความสำคัญกับองค์สุขภาพที่มีอยู่แล้วมากกว่า

ไฟเขียวโครงสร้างภาษีใหม่ จ่ายน้อยลง ต่ำกว่า 1.5 แสนยกเว้นคงเดิม

นายภักดีหาญส์ กล่าวอีกว่า ที่ประชุมมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฏากร ฉบับที่ ... พ.ศ. ... (มาตรการปรับปรุงโครงสร้างภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเพื่อส่งเสริมความเป็นธรรมและให้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจ) ซึ่งเป็นการแก้ไขปรับปรุงจากร่าง พ.ร.บ.ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว จากเดิมที่แยกกันดำเนินการแก้ไขเพิ่มเติมแก้ไขประมวลรัษฎากร ในส่วนที่เกี่ยวกับการปรับปรุงอัตราภาษีเงินได้สำหรับภาษีบุคคลธรรมดาเป็นอีกฉบับหนึ่ง มาเป็นรวมการปรับปรุงบัญชีอัตราภาษีเงินได้สำหรับบุคคลธรรมดาและการปรับปรุงการจัดเก็บภาษีเงินได้สำหรับคณะบุคคล ที่ไม่ใช่นิติบุคคล และห้างหุ้นส่วนสามัญที่ไม่ใช่นิติบุคคลมาเป็นฉบับเดียวกัน เพื่อปรับปรุงบัญชีอัตราภาษีเงินได้สำหรับบุคคลธรรมดา

จากเดิมที่บุคคลธรรมดาที่มีรายได้สุทธิเดิมไม่เกิน 1 แสน ใช้อัตราร้อยละ 5 และตั้งแต่ 1 แสนบาทถึง 3 แสนบาท เสียอัตราร้อยละ 10 แต่สำหรับอัตรภาษีใหม่ ให้บุคคลที่มีรายได้สุทธิไม่เกิน 3 แสนบาท เสียภาษีในอัตราร้อยละ 5 บุคคลที่มีรายได้สุทธิตั้งแต่ 3 แสนบาทขึ้นไปถึง 5 แสน เสียในอัตรร้อยละ 10 บุคคลที่มีรายได้สุทธิตั้งแต่ 5 แสนบาทขึ้นไปถึง 1 ล้านบาท เสียในอัตราร้อยละ 15 บุคคลที่มีรายได้สุทธิตั้งแต่ 1 ล้านบาทขึ้นไปถึง 2 ล้านบาทเดิมร้อยละ 30 เหลือร้อยละ 25 บุคคลที่มีรายได้สุทธิตั้งแต่ 2 ล้านบาทขึ้นไปถึง 4 ล้านบาท เดิมเสียในอัตราร้อยละ 35 เหลือร้อยละ 30 และบุคคลที่มีรายได้สุทธิตั้งแต่ 4 ล้านบาทขึ้นไป เดิมเสียในอัตราร้อยละ 37 ลดเหลือร้อยละ 35

ขณะที่ห้างหุ้นส่วนสามัญเสียในอัตราร้อยละ 20 ส่วนคณะบุคคลที่ไม่ใช่นิติบุคคล ให้เสียภาษีจากรายได้พึงประเมินร้อยละ 20 เช่นกัน โดยให้มีผลบังคับใช้ในปีภาษี 2556 ที่จะยื่นในปี 2557 เป็นต้นไป ในส่วนของการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับผู้มีเงินได้สุทธิเฉพาะส่วนไม่เกิน 150,000 บาท ที่มีผลใช้บังคับสำหรับเงินได้สุทธิที่เกิดขึ้นในปีพ.ศ.2551 เป็นต้นมา ยังคงได้รับการยกเว้นเหมือนเดิม โดยจะมีบทเฉพาะกาลในส่วนนี้เมื่อมีการตราเป็นพระราชบัญญัติออกมาแล้ว

รับทราบผลงาน 58 รัฐวิสาหกิจไทย กำไรเพิ่มขึ้นร้อยละ 27.45

นอกจากนี้ นายภักดีหาญส์ กล่าวว่า คณะรัฐมนตรีได้รับทราบผลการดำเนินงานของรัฐวิสาหกิจไทยทั้ง 58 แห่งในปี 2555 พบว่ามีกำไรสุทธิทั้งสิ้น 289,167 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2554 ถึงร้อยละ 27.45 สาเหตุหลักมาจากรัฐวิสาหกิจกลุ่มขนส่งมีกำไรในภาพรวมมากถึง 5,707.55 ล้านบาท ขณะที่ปี 2554 รัฐวิสาหกิจกลุ่มนี้มีผลการดำเนินงานขาดทุนสูงถึง 28,081.42 ล้านบาท โดยรัฐวิสาหกิจและกิจการที่กระทรวงการคลังถือหุ้นต่ำกว่าร้อยละ 50 สามารถนำส่งรายได้แผ่นดินมากถึง 122,748 ล้านบาท รวมรายได้ทั้งหมดของรัฐวิสาหกิจมีจำนวน 4.95 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 15.21 ส่วนสินทรัพย์ของรัฐวิสาหกิจไทยทั้งระบบ มีอัตราเติบโตต่อเนื่องตลอดเช่นกัน

โดยมีสินทรัพย์รวม 10.98 ล้านล้านบาท สูงขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 10.85 ซึ่งเป็นผลจากเงินฝากและเงินให้สินเชื่อของกลุ่มสถาบันการเงินและการขยายการลงทุนต่อเนื่องของกลุ่มพลังงาน ขณะเดียวกันแม้สินทรัพย์จะสูงขึ้นแต่หนี้สินของรัฐวิสาหกิจปรับเพิ่มสูงขึ้นมากกว่าทรัพย์สิน ที่มีหนี้สินรวม 8.62 ล้านล้านบาท สูงขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 11.37 เพราะสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐมีเงินฝากเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะธนาคารกรุงไทยที่มีเงินฝากเพิ่มมากถึงร้อยละ 29.7


กำลังโหลดความคิดเห็น