นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน ยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลปกครอง ขอให้ยกเลิก-เพิกถอนแผนบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านทั้งหมด ชี้รัฐบาลทำแค่ประชาสัมพันธ์และจัดนิทรรศการ ไม่ใช่รับฟังความคิดเห็น เตือน “ปลอดประสพ” หยิบผลศึกษาโครงการเก่าจากกรมชลฯ ไม่เป็นผลดี
วันนี้ (26 ก.ค.) นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน ผู้ร้องต่อศาลปกครอง คดีโครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลยื่นอุทธรณ์ในคดีดังกล่าวว่า ทางฝ่ายตนได้ยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลปกครองเมื่อวันที่ 25 ก.ค.แล้วด้วยเช่นกัน โดยขอให้ศาลวินิจฉัยคำขอท้ายคำฟ้องให้ครบถ้วน โดยเฉพาะการขอให้ยกเลิกหรือเพิกถอนแผนบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาททั้งหมด เนื่องจากเป้าหมายของตน คือการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนก่อน เพราะมองว่าการทำตามคำสั่งศาลตามที่นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธาน กบอ.ระบุว่า จะดำเนินการรับฟังความคิดเห็นประชาชนในระยะเวลา 3 เดือนนั้น จะกลายเป็นเพียงการประชาสัมพันธ์และจัดนิทรรศการให้ประชาชนรับทราบเท่านั้น ซึ่งจะไม่มีประโยชน์อะไรทั้งสิ้น แต่แนวทางการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนก่อนเริ่มโครงการจะมีข้อเสนอแนะและความเห็นที่หลากหลาย และนำความคิดเห็นเหล่านั้นมาปรับปรุงแก้ไขและกำหนดเป็นโครงการต่อไป ซึ่งอาจจะมีจำนวนโมดูลเพิ่มขึ้นหรือลดลงจากโครงการเดิมก็ได้ หลังจากนั้นจึงศึกษาผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมตามขั้นตอนต่อไป
นายศรีสุวรรณ กล่าวต่อว่า การที่นายปลอดประสพ ระบุว่าการศึกษาผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมของโครงการบางส่วน กรมชลประทานได้มีการศึกษาไว้แล้วนั้น ตนเห็นว่า รายงานดังกล่าวจะนำมาใช้ทั้งหมดไม่ได้ เพราะถือว่าเป็นข้อมูลเก่า ซึ่งการนำรายงานผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมจะต้องมีการปรับเปลี่ยนไปตามเวลาและสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริงด้วย และการระบุว่าจะสามารถจัดทำรายงานผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมในระยะเวลาสั้นๆ นั้น จะกลายเป็นการบังคับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ซึ่งจะไม่เป็นผลดีต่อการบริหารจัดการน้ำในอนาคต และประชาชนก็จะเกาะติดการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐอยู่แล้ว หากรัฐบาลใช้อำนาจโดยพลการ ก็อาจจะนำไปสู่การฟ้องร้องที่ไม่สิ้นสุดจนรัฐบาลไม่สามารถเดินหน้าต่อไปได้ ดังนั้นการทำตามกรอบกฎหมาย แม้จะช้าแต่ก็ไม่ทำให้เกิดความเสียหายแน่นอน