ส.ส.มุสลิม โวยสภาฯ สั่งเลิกจ้างร้านอาหารมุสลิมจัดงานเลี้ยงละศีลอดเดือนรอมฎอน หันไปจ้างโรงแรม 5 ดาว ทำอาหารราคา 1.5 ล้านแทน กลัวไม่ถูกหลักฮาลาลของอิสลาม เผย ส.ส.หลายคนเมินไม่ร่วมงาน ขณะเดียวกัน หวั่นทูต-อุปทูตรู้ทีหลังทำจะเกิดปัญหา สงสัยเลี้ยงอาหารแค่มื้อเดียวใช้งบฯ ถึง 1.5 ล้านบาท
นายสามารถ มะลูลีม ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัจตย์ แถลงว่า ตนทราบมาว่าในการจัดงานเลี้ยงละศีลอดเดือนรอมฎอน ของสภาผู้แทนราษฎร ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 26 ก.ค.เวลา 18.00 น. ที่รัฐสภา อาจจะเกิดปัญหาและส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นต่อประเทศไทย เนื่องจากก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่สภาฯ มีการไปตกลงกับร้านค้าที่เป็นพี่น้องชาวมุสลิมให้มาออกร้านเพื่อจัดเลี้ยงอาหารหลังการถือศีลอด ในวงเงินงบประมาณ 5 แสนบาท ซึ่งมั่นใจได้ว่าร้านอาหารที่เป็นของพี่น้องมุสลิมจะทำอาหารถูกต้องตามหลักฮาลาลของศาสนาอิสลาม แต่ปรากฏว่าพอถึงวันงานในช่วงเช้าที่ผ่านมา กลับพบว่ามีการว่าจ้างโรงแรมหรูระดับ 5 ดาวย่านสุขุมวิท ด้วยวงเงินงบประมาณ 1.5 ล้านบาท ให้จัดอาหารเลี้ยงในงานดังกล่าว จึงทำให้เกิดคำถามของสมาชิกรัฐสภาที่เป็นมุสลิมว่า วัตถุดิบที่จะนำมาปรุงเป็นอาหารนั้นทำถูกต้องตามหลักฮาลาลหรือไม่ อย่างไร เพราะต่างตะขิดตะขวงใจ สำหรับตน นายณรงค์ ดูดิง ส.ส.ยะลา และนางนาถยา เบ็ญจศิริวรรณ ส.ส.กทม. นายเจะอาหมิง โตะตาหยง ส.ส.นราธิวาส และ นายธานินทร์ ใจสมุทร ส.ส.สตูล พรรคชาติไทยพัฒนา และเพื่อน ส.ส.มุสลิมอีกหลายสิบคนทราบเรื่องนี้แล้ว บางคนจะไปร่วมงาน แต่จะไม่ร่วมรับประทานอาหารเช่นเดียวกับตน และอีกหลายคนจะไม่ไปร่วมงานเพราะถือว่าเป็นอาหารที่ขัดต่อหลักศาสนา
นายสามารถกล่าวว่า ที่สำคัญการบอกเลิกว่าจ้างร้านอาหารมุสลิมที่ประกอบอาหารถูกหลักศาสนาได้สร้างความเสียหายให้แก่ร้านเหล่านั้นเพราะมีการเตรียมวัตถุดิบเพื่อจัดเลี้ยงแขกจำนวนมากไว้แล้ว นอกจากนี้ กังวลว่าการใช้งบประมาณสูงกว่า 1 ล้านบาทในการจัดเลี้ยงเพียงอาหารค่ำ 1 มื้อ แม้จะเป็นงบในส่วนเลี้ยงรับรองของประธานสภาฯ แต่ก็มาจากภาษีประชาชนว่า มันคุ้มค่าหรือไม่ อย่างไร ยิ่งทราบว่าไม่เป็นร้านอาหารที่เป็นมุสลิม หรือทำไม่ถูกหลัก ยิ่งเป็นการสร้างความเสียหายเกิดขึ้นได้ หากบรรดาเอกอัครราชทูตและอุปทูต หรือตัวแทนกลุ่มประเทศมุสลิมที่จะมาร่วมงานทราบเรื่องนี้ภายหลังจะทำให้ชื่อเสียงของไทยเสียหายได้ ตนจึงไม่เข้าใจการบริหารและจัดงานของสภาฯ ในปีนี้ ทั้งๆ ที่ผ่านมาในแต่ละปีไม่เคยเกิดปัญหา