ASTVผู้จัดการ – สื่อแฉ “บิ๊กตู่-ทบ.” ซุ่มเงียบอนุมัติเลิกใช้ “เรือเหาะตรวจการณ์” มูลค่ารวมกว่า 450 ล้าน หลังประสบอุบัติเหตุตกเมื่อ ธ.ค. 55 และซ่อมยาวมาจนปัจจุบันยังไม่เคยใช้งานได้จริงแม้แต่ครั้งเดียว เผยบริษัทนายหน้าก็ปิดกิจการหนีไปแล้ว “เสริมสุข” ถาม “อนุพงษ์-ประยุทธ์” ยังอยู่สบายดีหรือ?
จากกรณีที่วานนี้ (18 ก.ค.) กองทัพบก โดย พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก ออกมาแถลงข่าวถึงกรณีคลิปภาพของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) พร้อมเพลงประกอบที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับความรักของคู่รักเผยแพร่ทางโซเชียลมีเดีย โดยระบุว่า ภาพดังกล่าวที่เผยแพร่อยู่ในขณะนี้ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง เพราะถือว่าไม่ให้เกียรติกัน เนื่องจากบุคคลในภาพเป็นผู้นำประเทศและผู้นำสูงสุดขององค์กร สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ประชาชนเกิดความเข้าใจผิด
ก่อนหน้านั้นในวันอังคารที่ 16 ก.ค. รายการที่นี่ Thai PBS ซึ่งออกอากาศ เวลา 21.15-22.30 น.ทางสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอสได้นำเสนอรายงานเรื่อง “กองทัพบกสั่งจำหน่ายเรือเหาะ” ซึ่งถูกจัดซื้อตั้งแต่สมัย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา อดีต ผบ.ทบ.ทว่าใช้งานไม่ได้ และถูกซ่อมแซมเรื่อยมาจนถึงยุคของ พล.อ.ประยุทธ์ โดยล่าสุดมีข่าวออกมาว่า เรือเหาะที่ใช้งบประมาณไปกว่า 450 ล้านบาท กำลังถูกจำหน่ายโดยไม่เคยบินตรวจการณ์ได้แม้แต่ครั้งเดียว
“อีกเรื่องหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณจำนวนไม่น้อย ก็คือการสั่งซื้ออุปกรณ์ของกองทัพ มีรายงานว่ากำลังเกิดปัญหากับเรือเหาะที่ใช้ลาดตระเวนเพื่อดูแลปฏิบัติการในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ มูลค่ากว่า 350 ล้านบาท (ไม่รวมค่าบำรุงรักษา) สั่งซื้อมาในยุคของ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา อดีตผู้บัญชาการทหารบก ปรากฎว่าขณะนี้กองทัพบกกำลังมีคำสั่งให้จำหน่ายเรือเหาะประเภทนี้หลังจากเกิดอุบัติเหตุ และไม่สามารถซ่อมแซมให้กลับคืนสภาพเดิม และใช้งานได้” รายการที่นี่ Thai PBS ระบุ
ด้าน นายเสริมสุข กษิติประดิษฐ์ บรรณาธิการข่าวการเมืองและความมั่นคง สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ผู้ทำรายงานชิ้นดังกล่าวกล่าวผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ว่า “เป็นเรื่อง ‘อัปยศอดสู’ ที่ผู้ใหญ่ในกองทัพไม่มีใครอยากพูดถึง เรื่องจริงที่สร้างความขมขื่นแก่ทหารในกองทัพ”
“พูดคุยกับนายทหารในกองทัพภาคที่สี่ ต่างส่ายหัวไปตามๆ กันต่อกรณีที่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา อดีต ผบ.ทบ.จัดหาเรือเหาะมูลค่า 350 ล้านบาท มาให้ใช้ตั้งแต่ช่วงปลายปี 52 แต่ไม่เคยได้ใช้จริงใน พท.มีปัญหามาตลอด ผู้นำกองทัพตัดสินใจจัดหาด้วยวิธีการพิเศษ หวังว่าจะนำมาช่วยลาดตระเวนทางอากาศหาข่าว หลังคนในกองทัพถูกหลอกไปดูงานที่อิรัก และเห็นว่าน่าจะกลับมาใช้ได้ดีใน 3 จชต.โดยไม่ได้คำนึงถึงสภาพภูมิประเทศที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง จากพื้นที่ทะเลทราย ราบ โล่ง มาเป็นพท.ป่าเขา มีบ้านเรือน ปชช.แน่นหนา ยากต่อการตรวจการณ์ทางอากาศ ...
“ก.ย. 55 ผบ.ทบ.ประยุทธ์ เด็กในคาถาของอนุพงษ์ อนุมัติเงิน 50 ล้านซ่อมเรือเหาะ Sky Dragon หรือมังกือเหิรฟ้า เพื่อให้บินได้ตามระยะที่กำหนดไว้ 2,000-3,000 เมตร หลังซ่อมเสร็จทดลองบินเดือน ธ.ค.เกิดอุบัติเหตุเครื่องตก เดี้ยงยาวมาถึง ก.ค. 56 มีข่าวเสนอให้ ผบ.ทบ.อนุมัติเงินอีกก้อน 20 ล้านบาทเพื่อซ่อมแซม โอ้พระเจ้าจอร์จคิดได้ไง ... หวังนำกลับมาใช้งานใน พท.ใหม่ ไม่รู้ว่าใช้อะไรคิด ยังเพ้อฝันว่าจะมาใช้งานได้บินได้เหนือระยะ 1,000 เมตร” นายเสริมสุขระบุ
ขณะที่ในรายงานของไทยพีบีเอสได้เสริมข้อมูลว่า ช่วง 3 ปีที่ผ่านมานับตั้งแต่ซื้อมาเรือเหาะถูกเก็บรักษาไว้ ณ โรงจอดภายในกองพลทหารราบที่ 45 กองทัพภาคที่ 4 ขณะที่แหล่งข่าวในกองทัพยังเปิดเผยด้วยว่า บริษัทนายหน้าที่กองทัพบกได้ติดต่อในการจัดซื้อจัดจ้างด้วยวิธีพิเศษได้ปิดกิจการไปแล้วภายหลังการซื้อขายเรือเหาะตรวจการณ์รุ่นต้นแบบดังกล่าวให้กับกองทัพบกในยุคของ พล.อ.อนุพงษ์
“หลังเครื่องตกไม่มีการชี้แจงจากกองทัพบกใดๆ บอกว่าอยู่ระหว่างการซ่อมแซมเพื่อนำกลับมาใช้ใหม่...หวังปล่อยให้คนไทยลืมเรื่องนี้แล้วก็ปิดโครงการไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ใช้เงินไปร่วมกว่า 450 ล้านบาท แต่ใช้งานอะไรไม่ได้เลย ไม่เคยบินตรวจการณ์ได้แม้แต่ครั้งเดียว ต้องมีคนรับผิดชอบไหมครับ ท่าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ถ้าเงินในกระเป๋า ‘ท่านป๊อก’ กับ ‘บิ๊กตู่’ จะไม่ว่าซักคำ ยังสุขสบายดีอยู่นะครับ จะให้ดีน่าจะออกมาชี้แจงให้คนในประเทศเขารับรู้หน่อย.... เรื่องนี้รู้ถึงไหนต้องเอาปี๊บคลุมหัวเดินเลย ท่านป๊อกก็สบายดีนะครับ” บก.ข่าวการเมืองและความมั่นคง สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส กล่าวทิ้งท้าย
รายงานเรื่อง “กองทัพบกสั่งจำหน่ายเรือเหาะ” ในรายการที่นี่ Thai PBS วันอังคารที่ 16 ก.ค. ที่ผ่านมา
