“นพดล” ว่าตาม “พานทองแท้” คอนเฟิร์มเสียงพ่อ เชื่อโดนตัดต่อ บิดเบือน รอเจ้าตัวเอาไปให้ “แม้ว” ฟังถึงสรุปได้ ไม่รู้ปล่อยหวังอะไร แต่สอดคล้องพวกต้านรัฐแน่ ยันในพรรคยังไม่ถึงกับไล่ “ยุทธศักดิ์” ชี้ “ชินวัฒน์” ฉุน “สุรนันทน์” แค่คิดเห็นส่วนตัว ไม่ทำพรรคขัดแย้ง เชื่อเลขาฯ นายกฯ จะทำงานหนักขึ้น ไม่ตำหนิ ส.ส.วิพากษ์แต่อยากให้พูดกันภายใน เชื่อสถานการณ์เดือนหน้าเข้มข้น
วันนี้ (11 ก.ค.) นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กล่าวถึงกรณีที่นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย พ.ต.ท.ทักษิณ เขียนข้อความบนเว็บไซต์เฟซบุ๊กยอมรับคลิปเสียงปริศนาเป็นเสียงบิดาของตนว่า ก็เป็นไปตามที่นายพานทองแท้ ระบุ แต่เชื่อว่าคลิปดังกล่าวได้ถูกตัดต่อบิดเบือนบางท่อนบางตอนออกไป ซึ่งต้องให้นายพานทองแท้ นำคลิปเสียงไปให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ฟังก่อน ถึงจะสรุปได้แน่ชัดว่าช่วงใดบ้างที่มีการตัดต่อ ทั้งนี้ไม่ทราบว่าคนที่ปล่อยคลิปเป็นใครหรือมีเป้าหมายอะไรมากไปกว่าหวังผลทางการเมือง และทำลายชื่อเสียงของคนที่ถูกพาดพิงในคลิปโดยเฉพาะการสร้างความสับสนให้เกิดขึ้นในสังคม
ทั้งนี้ นายนพดล เชื่อว่า เป็นการรับลูกกันของกลุ่มที่เคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาล โดยเฉพาะวันนี้ที่มีกลุ่มเครือข่ายคนไทยหัวใจรักชาติรักษาแผ่นดิน เดินทางมาหน้ากระทรวงกลาโหม เพื่อต่อต้านและขัดขวางไม่ให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม เข้าร่วมในพิธีรับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โดยอยากขอโอกาสให้นายกรัฐมนตรีได้พิสูจน์ผลงานในกระทรวงนี้ก่อน อย่าเพิ่งขัดขวาง เพราะหากทำไม่ดีก็ประเมินกันตามกระบวนการประชาธิปไตย ส่วนกระแสการขับไล่ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ทั้งภายในและนอกพรรคนั้น ตนมองว่ากระแสกดดันภายในพรรคคงยังไม่ถึงขนาดนั้น เพราะต้องให้ความเป็นธรรมด้วยว่าแค่เรื่องคลิปเสียงถึงขั้นต้องกดดันให้พ้นจากตำแหน่งหรือไม่
เมื่อถามถึงกรณีแก๊งไอติมจะเป็นตัวเติมเชื่อไฟความขัดแย้งในพรรคให้ขยายวงกว้างหรือไม่ เพราะมี ส.ส.หลายคนออกมาแสดงความไม่พอใจ นายนพดล กล่าวว่าเรื่องที่ นายชินวัฒน์ หาบุญพาด ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ระบุว่าไม่พอใจ นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เพราะมีปูมหลังเป็นพวกเดียวกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และจะยื่นหนังสือเสนอให้นายกรัฐมนตรีถอดถอนนายสุรนันทน์ นั้น ตนมองว่าน่าจะเป็นการพูดคุยกันวงในเป็นการส่วนตัว แต่หากให้สัมภาษณ์จริงก็เป็นการแสดงความคิดเห็นส่วนตัวของ ส.ส.ก็ไม่น่าจะนำไปสู่ความขัดแย้ง เพราะความเห็นนั้นแตกต่างกันได้ แต่เรื่องถอดถอนเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเป็นอำนาจหน้าที่โดยตรงของนายกรัฐมนตรี ที่จะแต่งตั้งคนที่ไว้ใจ ทางพรรคเพื่อไทยคงไม่ก้าวล่วง แต่คิดว่าหลังจากนี้นายสุรนันทน์ ต้องทำงานให้หนักขึ้น แม้ว่านายสุรนันทน์ จะมีประสบการณ์ทำงานมานานแล้วก็ต้องทำให้ดีขึ้นกว่าเดิม
ส่วนจะห้ามปราม ส.ส.ในพรรคไม่ให้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์เพื่อลดภาพความขัดแย้งหรือไม่นั้น นายนพดล กล่าวว่า กระแสข่าวการวิจารณ์ของ ส.ส.ในพรรคไม่แน่ใจว่าพูดเป็นการภายในหรือไม่ เพราะก็เชื่อว่าทุกคนมีความคิดเห็นเป็นของตัวเองได้ และพรรคเพื่อไทยก็เป็นพรรคใหญ่มีหลากหลายความคิดเห็น ก็คงไม่ไปตำหนิใครแต่อยากวิงวอนว่ามีอะไรก็พูดกันเป็นการภายในพรรคจะดีกว่า
เมื่อถามถึงกระแสความขัดแย้งในพรรค เรื่องฉาวของรัฐบาลและม็อบที่ออกมาต่อต้านอย่างหนักในช่วงนี้เตรียมรับมืออย่างไร นายนพดล กล่าววิเคราะห์ถึงสถานการณ์การเมืองในช่วงเดือนสิงหาคมว่า จะมีความเข้มข้นมากขึ้น
“สถานการณ์ช่วงนี้เปรียบเสมือนเครื่องบินที่ตกหลุมอากาศ กัปตันก็ต้องเร่งเครื่องให้ขึ้นสูงขึ้น เช่นเดียวกันกับรัฐบาลที่ต้องเร่งผลิตผลงานพยายามสร้างเพื่อเอาใจพี่น้องประชาชน ไม่เกิน 24 เดือน รอให้รัฐบาลอยู่ครบเทอม ก็มาเลือกตั้งกันใหม่ หากรัฐบาลทำงานดีก็ได้รับการเลือกตั้งกลับมาทำต่อ ก็คิดว่าจะทำงานให้ดีเพื่อให้ได้ชัยชนะอีกครั้งหนึ่ง” นายนพดล กล่าว