ภาค กทม.อ้าง เวลาน้อย-เข้าไม่ถึงบ้านมีรั้ว ทำแพ้เลือกตั้ง ติงแกนนำเมินช่วยหาเสียงหวั่นถูกเหมาพวกแดง เชื่อ “เก่ง-การุณ” ทำพื้นที่เองไม่แพ้แน่ ชี้ “อี้” ได้เปรียบเข้าถึงบ้านสี่เสาฯ เผย “หญิงหน่อย” ตัดใจหันหน้าทำงานพุทธศาสนาเต็มตัวหลังพ่ายศึก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 17 มิ.ย. รายงานข่าวจากภาคกทม.พรรคเพื่อไทย เปิดเผยถึงผลการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 12 พรรคเพื่อไทย ที่พ่ายแพ้ให้กับผู้สมัครจากพรรคประชาธิปัตย์ว่า ต้องยอมรับว่าระยะเวลาหาเสียงเพียง 18 วันของนายยุรนันท์ ภมรมนตรี เป็นปัญหาจริงๆ รวมถึงปัจจัยบ้านคนมีรั้ว บ้านราคาตั้งแต่ 3 ล้านบาทขึ้นไปยังเป็นปัญหาที่เราเข้าไม่ถึง ไม่สามารถประชาสัมพันธ์เชิงรุก โดยเฉพาะยุทธศาสตร์ Air War ในการใช้ทั้งสื่อฟรีทีวี สื่อทางโลกโซเชียลมีเดีย ไม่สามารถนำมาใช้ได้อย่างเต็มที่ในเวลาเพียง 18 วัน เพราะหากจะเห็นผลต้องมีเวลาไม่ต่ำกว่า 30 วัน ขณะเดียวกันทีมงานในการคิดนำคนลงพื้นที่ช่วยผู้สมัครก็เป็นจุดหนึ่ง แม้ระดับรัฐมนตรีไปลงพื้นที่ แต่ถามว่ามีชาวบ้านรู้จักกี่คน เขาอยากได้คนเป็นที่รู้จักไปลงมากกว่า การไปกลัวว่าหากภาพออกมาแดงมาก คนจะไม่เอา สังคมวันนี้มันก็แบ่งชัดเจนอยู่แล้ว เลือกข้าง แบ่งสี พื้นที่ดอนเมืองก็แดงมาตลอด ซึ่งตรงนี้ก็เป็นจุดหนึ่งที่ต้องนำมาประเมินและแก้ไขกันใหม่
รายงานข่าวเผยว่า ผลที่ออกมาโดยเฉพาะพื้นที่ดอนเมืองที่เป็นจุดแข็งมาโดยตลอด ในประวัติศาสตร์กว่า 30 ปี เลือกตั้ง ส.ก. เลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. เลือกตั้ง ส.ส. ในเขตนี้เราไม่เคยพลาดท่า แต่สัญญาณช่วงหลังๆ ทั้งแพ้ ส.ก. มาแพ้ ส.ส.อีก มันบอกอะไรบางอย่าง แต่ก็ยังเชื่อว่าถ้าเป็นนายการุณทำพื้นที่เองคงไม่น่าจะส่งผลกระทบถึงขนาดนี้ อาจเป็นเพราะนายยุรนันท์ที่ไม่เคยชินกับพื้นที่ ซึ่งแตกต่างจากนายแทนคุณที่ลงเกาะพื้นที่ตลอดมาร่วม 2 ปี ตั้งแต่เรื่องน้ำท่วม การเข้าถึงชาวบ้านทำให้เขาชนะไป ประกอบกับปัจจัยหลายอย่างทั้ง เรื่องจราจร ข้าวของแพง ปัญหาความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินประชาชนซึ่งเป็นปัญหาใกล้ตัวประชาชน กลับไม่ค่อยมีการพูดถึง และทางเกมใต้ดินประชาธิปัตย์เขาเลยเอาในจุดนี้มาดิสเครดิตเรา
รายงานข่าวเผยอีกว่า ที่น่าสนใจอีกประการคือ นายแทนคุณเป็นคนเชื้อสายจีน พื้นเพเป็นคน อ.นาบอน จ.นครศรีธรรมราช ตรงจุดนี้ก็ทำให้ได้รับการสนับสนุนจากเครือข่ายทางใต้ของประชาธิปัตย์มากเป็นพิเศษ ประกอบกับเขาเข้าถึงเครือข่ายบ้านสี่เสาฯ จึงเป็นอีกจุดหนึ่งที่ได้เปรียบ เพราะในภาค กทม.บางส่วนประเมินกันตั้งแต่แรกแล้วว่ายังไงนายการุณก็ต้องโดนใบแดง เพราะมีธงมา เปิดโอกาสให้นายแทนคุณได้เป็น ส.ส. ซึ่งมีธงมาตั้งแต่ต้น และก็เป็นอย่างนี้จริงๆ แต่จากนี้ไปก็ต้องมาประเมินกันใหม่ คงต้องรอให้คณะกรรมการยุทธศาสตร์ภาค กทม.ชุดใหญ่ ที่มี น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นประธาน ได้เรียกประชุม คงจะมีการนำเสนอข้อมูล วิเคราะห์ แก้ไขแนวทางกันใหม่ว่าเราจะวางแผนในการเลือกตั้ง กทม.ในวันข้างหน้าอย่างไร แม้การส่วนคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ อดีตประธานภาค กทม. หลังจากการพ่ายแพ้ครั้งนี้คงจะหันไปทำงานด้านพุทธศาสนามากขึ้น ได้ข่าวมาว่าเพิ่งไปลงเรียนระดับปริญญาเอกเกี่ยวกับด้านพุทธศาสนา ของเครือข่ายมหาจุฬาฯ ที่วัดมหาธาตุ