ผบ.สส.เปิดประชุมสัมมนาวิชาการ ทอ. ชูเจ้าแห่งเทคโนโลยีไทย ประยุกต์เครื่องมือบรรเทาสาธารณภัยชาติ ชี้ทหารเอี่ยวอุ้มฆ่า “เอกยุทธ” เรื่องส่วนตัว แนะกองทัพนิ่งเพราะไม่ได้ทำอะไร เลี่ยงตอบข่าวลือถูกเด้งพ้นเก้าอี้ บอกให้อยู่กับปัจจุบัน
วันนี้ (14 มิ.ย.) ที่หอประชุมกองทัพอากาศ พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส.) เป็นประธานพิธีเปิดการประชุมสัมมนาทางวิชาการกองทัพอากาศ ประจำปี 56 หรือ Air Power Symposium 2013 โดยมี พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) นางคริสตี แอนน์ เคนนีย์ เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย พลอากาศจัตวา ยูฮัน คอร์ล สเวนซอน เจ้ากรมการจัดหาและการฝึก กองทัพอากาศสวีเดน พร้อมด้วยตัวแทนผู้บัญชาการเหล่าทัพ ผู้บริหารระดับกลางถึงระดับสูงของกองทัพอากาศ และแต่ละเหล่าทัพเข้าร่วม เพื่อได้เข้าใจและตระหนักถึงความสำคัญของการพัฒนากองทัพอากาศ
พล.อ.ธนะศักดิ์กล่าวว่า กองทัพอากาศถือเป็นหน่วยงานหลักหน่วยงานหนึ่งของกองทัพไทย ที่มีขีดความสามารถสูงและปฏิบัติหน้าที่ประสบความสำเร็จ มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ ทั้งนี้การพัฒนาคนนั้นจะต้องควบคู่ไปกับการพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อนำมาประยุกต์ใช้ให้เกิดความเหมาะสม ตนจึงมักจะย้ำเสมอว่า 3 เหล่าทัพรวมเป็น 1 กองทัพไทย จึงอยากให้นำสิ่งที่ได้จากการจัดงานครั้งนี้มานำไปใช้ประโยชน์เป็นรูปธรรมที่แท้จริง กองทัพอากาศเป็นผู้ที่มีความชำนาญและถือเป็นเจ้าแห่งเทคโนโลยี จากการที่ตนได้ไปเยือนต่างประเทศมักจะได้คำชมจากประเทศต่างๆ ทุกครั้ง อย่างไรก็ตามในขณะนี้ทางกองทัพอากาศได้มีการฝึกและใช้เครื่องมือร่วมกับกองทัพเรือ และในอนาคตก็จะมีกองทัพบกเข้าร่วมด้วย ตนขอชื่นชมกองทัพอากาศ นอกจากนี้เรายังได้มีการพัฒนาและประยุกต์เครื่องมือต่างๆ เพื่อช่วยบรรเทาสาธารณภัยให้แก่ประชาชน เช่น เครื่องที่ใช้ดับไฟป่า ซึ่งสารเคมีปกติจะต้องซื้อจากต่างประเทศ แต่ปัจจุบันเราสามารถผลิตได้เองและมีประสิทธิภาพพอสมควร ส่วนเรื่องอื่นเราก็มีการพัฒนาอยู่เรื่อยๆ อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาการทำงานของ 3 เหล่าทัพจะไปพร้อมกัน เครื่องมือพิเศษใดที่ต้องเน้นเรื่องการประหยัด เราจะซื้อไว้เป็นส่วนกลาง ซึ่งสามาระยืมเพื่อไปดำเนินการร่วมกันได้
จากนั้น ผู้บัญชาการทหารสูงสุดให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีทหารถูกพาดพิงว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการอุ้มฆ่านายเอกยุทธ อัญชัญบุตร นักธุรกิจชื่อดัง ว่าคนในกองทัพมีเป็นจำนวนมาก ตนมีลูกน้อง 4 แสนนาย ถ้าจะมีคนใดคนหนึ่งไม่ดีก็สามารถเกิดขึ้นได้ แต่เป็นเรื่องของส่วนบุคคล ซึ่งเราจะต้องดำเนินการไปตามกฎระเบียบ ทั้งนี้ตนถามว่ามีทหารที่ไม่ดีบ้าง หรือบางครั้งดีอยู่แล้ว แต่มีคนพยายามทำให้เป็นคนไม่ดี ซึ่งหากมีอะไรที่จะต้องสอบสวน นโยบายของเรายินดีให้การสนับสนุนและว่ากันไปตามกฎระเบียบ โดยช่วงที่ผ่านมาหากมีเรื่องใดที่มีข้อสงสัย เราก็พร้อมที่จะให้ความร่วมมือ ทั้งนี้ต้องขอความร่วมมือสื่อมวลชนช่วยปกป้องกองทัพด้วย หากเรื่องนั้นไม่มีมูลความจริง สังคมไทยทุกวันนี้เมื่อใครถูกกล่าวหา และไม่ออกมาชี้แจงก็จะถูกเข้าใจว่าเป็นอย่างนั้น แต่ถ้าออกมาชี้แจงก็จะกลายเป็นเรื่องบานปลาย เพราะฉะนั้นทางที่ดีทหารควรจะนิ่ง และเคารพตามกฎกติกา เพราะบางเรื่องหากยังไม่มีการสอบสวนหรือหาความเป็นธรรมก็ควรจะเฉยไว้ เพราะเราไม่ได้ทำอะไร
นอกจากนี้ พล.อ.ธนะศักดิ์ยังให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่าจะถูกปรับย้ายออกจากตำแหน่งว่า คนเราปัจจุบันชอบอยู่กับอนาคต แต่ไม่อยู่กับปัจจุบัน แทนที่จะทำงานปัจจุบัน แต่ไปกังวลเรื่องอนาคต ตนถามว่าจะทำงานได้ดีหรือไม่ เพราะฉะนั้นจงอยู่กับปัจจุบันและทำงานให้ดีที่สุด พร้อมทั้งเตรียมแผนที่จะพัฒนาคนและประเทศ
เมื่อถามว่า ไม่รู้สึกหวั่นไหวต่อกระแสข่าวดังกล่าวใช่หรือไม่ พล.อ.ธนะศักดิ์ย้อนถามว่า ถ้าเดินทางออกไปแล้วต้องกังวลหรือไม่ว่ารถจะติด ทั้งนี้ตนไม่ได้โทษสื่อในการนำเสนอข่าว แต่การที่ใครจะมองทหารดีหรือไม่ดีก็ขึ้นอยู่กับสื่อมวลชน สิ่งต่างๆต้องมาจากสื่อ ไม่ใช่อยู่ดีๆ จะให้ ผบ.เหล่าทัพออกมาพูดว่าได้ทำดีและประเทศดี