xs
xsm
sm
md
lg

งดประชุม กมธ.กู้ 2 ล้านล้าน เหตุให้เอกสารไม่ครบ-กรมศิลป์ แจงพัฒนาโบราณสถาน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายอรรถวิช สุวรรณภักดี ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ (ภาพจากแฟ้ม)
การประชุม กมธ.เงินกู้ 2 ล้านล้านต้องงดชั่วคราว เนื่องจาก กมธ.เสียงข้างน้อย โวยเอกสารแนบที่ร้องขอไม่ครบ ขณะที่การประชุม กมธ.งบประมาณปี 57 พิจารณางบประมาณของกรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม งบ 2 พันล้าน อธิบดีแจงต้องพัฒนาเพราะเป็นสถานที่เกี่ยวกับจิตใจ

วันนี้ (10 มิ.ย.) ที่รัฐสภา ซึ่งมีการประชุมกรรมาธิการวิสามัญ พิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ วงเงิน 2 ล้านล้านบาท ที่มี นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รมว.คลัง ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ เป็นประธานการประชุม โดยสัปดาห์นี้ได้งดการประชุม หลังจากเมื่อวันที่ 6 มิ.ย.ที่ผ่านมา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ได้เข้าเสนอแปรญัตติ และได้ขอสงวนคำแปรญัตติ โดยยืนยันว่า การจัดทำโครงการของรัฐบาลจะต้องผ่านการพิจารณาของรัฐสภาอีกครั้ง เนื่องจากรายละเอียดของโครงการที่เสนอมาในเอกสารแนบท้ายไม่มีความชัดเจน อีกทั้งเอกสารเกี่ยวกับการจัดทำตัวเลขค่าใช้จ่าย ค่าที่ปรึกษาโครงการที่ทางคณะกรรมาธิการเสียงข้างน้อยได้ร้องขอไปยังกระทรวงคมนาคมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนั้นยังไม่ได้มีการจัดส่งมาให้ โดยทางกระทรวงคมนาคมได้ขอเวลาจัดเตรียมข้อมูลและแก้ไขตัวเลขเป็นเวลา 2 สัปดาห์

โดย นายอนุชา บูรพชัยศรี ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะกรรมาธิการเสียงข้างน้อยระบุว่า เมื่อเอกสารที่ร้องขอไม่ครบ กรรมาธิการเสียงข้างน้อยจึงไม่เห็นความจำเป็นที่จะจัดให้มีการประชุมต่อ จึงได้เสนอต่อที่ประชุมว่าควรงดการประชุมจนกว่าจะได้เอกสารประกอบการพิจารณาอย่างครบถ้วน

ขณะที่ นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี ส.ส.กรุงเทพมหานคร พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า ในวันที่ 12 มิ.ย.นี้ คณะกรรมาธิการจะเดินทางลงพื้นที่เพื่อตรวจดูแนวรถไฟสายสีชมพู เนื่องจากในที่ประชุมมีการถกเถียงกัน เนื่องจากการก่อสร้างมีการเปลี่ยนสถานีปลายทาง โดยทางคณะกรรมาธิการได้สอบถามถึงเหตุผลของการปรับเปลี่ยนครั้งนี้ แต่ไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจน ทางคณะกรรมาธิการจึงได้หารือกันว่าจะลงพื้นที่ตรวจสอบด้วยตัวเอง อย่างไรก็ตาม การประชุมพิจารณา พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้าน จะมีการนัดประชุมอีกครั้งภายหลังได้รับเอกสารประกอบการพิจารณาครบถ้วน ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นวันที่ 24 มิ.ย.นี้

อีกด้านหนึ่ง มีการประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2557 ที่มีนายวิทยา บุรณศิริ รองประธานกรรมาธิการเป็นประธานการประชุม พิจารณางบประมาณของกรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม ซึ่งได้รับการจัดสรรงบจำนวน 2,098 ล้านบาท ตามแผนงานที่กำหนดไว้ 4 แผน ประกอบด้วย รองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน พัฒนาศิลปหัตถกรรมและผลิตภัณฑ์ชุมชน แก้ไขปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มเพิ่มรายได้จากการท่องเที่ยวและอนุรักษ์ ส่งเสริมและพัฒนาศาสนา ศิลปะ และวัฒนธรรม

โดยกรรมาธิการส่วนใหญ่ซักถามถึงการดำเนินการขึ้นทะเบียนโบราณสถาน รวมไปถึงการบูรณะปฏิสังขรณ์สถานที่สำคัญโดยเฉพาะโบราณสถานที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ซึ่ง นายสหวัฒน์ แน่นหนา อธิบดีกรมศิลปากร ชี้แจงว่า ปัจจุบันไทยมีโบราณสถานจำนวน 8 พันแห่ง ดำเนินการขึ้นทะเบียนแล้ว 2 พันแห่ง เหลือ 6 พันแห่ง ซึ่งต้องใช้เวลาประมาณ 40 ปี ถึงจะดำเนินการแล้วเสร็จ เนื่องจาก 1 ปี จะสามารถขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานได้เพียง 150 แห่งเท่านั้น ทางกรมศิลปากรจึงทำการศึกษาเพื่อเพิ่มแนวทางในการขึ้นทะเบียนให้มากขึ้น

ส่วนกรณีการบูรณะสถานที่สำคัญซึ่งได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมนั้น นายสหวัฒน์ กล่าวว่า ทางกรมศิลปากรได้ส่งมอบงบประมาณให้ดำเนินการแล้วทั้งหมด 303 แห่ง ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินการ เช่นเดียวกับการบูรณะวัดช้างไห้ จังหวัดปัตตานี ซึ่งเป็นแผนในการแก้ไขปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้ใช้งบประมาณจำนวน 10 ล้านบาทในการดำเนินการ เนื่องจากเป็นสถานที่สำคัญทางจิตใจและสร้างขึ้นมากว่า 300 ปี


กำลังโหลดความคิดเห็น