“ยะใส” ชี้ร่างปรองดองไขว้ขาหลอก เย้ย นปช.ค้านไม่เต็มปากหวั่น “เต้น” หลุดเก้าอี้

ผู้ประสานงานกลุ่มกรีน ชี้ปลายทางเอาทักษิณกลับบ้านคือร่างปรองดองสูตรเฉลิม เหตุ “วรชัย-หมอเชิดชัย” ยังลงชื่อหนุน ไขว้ขาหลอกเสื้อแดงชัดเจน เย้ย นปช.ค้านพอเป็นพิธี ไม่เต็มปาก หวั่นเก้าอี้ “ณัฐวุฒิ” ถูกเด้ง ท้าถ้าให้ผ่านขุดศพคนตายมาเผาซ้ำ เตือนอย่าหลงประเด็น 4.6 หมื่นล้านได้คืนอยู่ดี แต่ทำลายการถ่วงดุลสิ้นเชิง

วันนี้ (26 พ.ค.) นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มกรีน (Green Politics) กล่าวถึงกรณีร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง ฉบับ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี โดยเห็นว่าในขณะนี้เป็นที่ชัดเจนแล้วว่าปลายทางของการนิรโทษกรรมจริงๆ ของพรรคเพื่อไทยและ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี คือ ร่าง พ.ร.บ.ปรองดองฉบับ 163 ส.ส.พรรคเพื่อไทย เพราะแม้แต่นายวรชัย เหมะ แกนนำเสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมก็ยังโผล่เข้าชื่อร่วม 163 ส.ส. สนับสนุนร่าง พ.ร.บ.ฉบับสุดซอยนี้ หรือแม้แต่ นพ.เชิดชัย ตันติศิรินทร์ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ และนายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงที่ออกมาคัดค้านก่อนหน้านี้ ก็ไปร่วมลงชื่อด้วย และยังมี ส.ส.อีกหลายคนที่ร่วมลงชื่อสนับสนุนร่าง พ.ร.บ.ทั้งสองร่างด้วยการไขว้ชื่อสนับสนุนทั้งสองร่าง ซึ่งไม่ใช่การสับขาหลอกอย่างที่พรรคเพื่อไทยบอก แต่เป็นการไขว้ขาหลอกคนเสื้อแดงอย่างชัดเจน

“แกนนำ นปช.ที่เคยค้าน พ.ร.บ.ปรองดอง รอบนี้ค้านไม่เต็มปากหรืออาจจะค้านพอเป็นพิธี เพราะถึงเวลาที่ทักษิณจะทวงบุญทวงคุณจากแกนนำโดยเฉพาะกรณีนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ถ้ายืนหยัดว่าคนตายบริสุทธิ์และถูกกระทำจากเจ้าหน้าที่จริง ในฐานะแกนนำมวลชนก็ต้องเลือกระหว่างตำแหน่งรัฐมนตรี กับแกนนำมวลชน ถ้าแกนนำ นปช.ยอมให้ร่าง พ.ร.บ.ปรองดองผ่าน เท่ากับขุดศพคนตายมาเผาซ้ำ ควรไปกราบขอขมาวิญญาณคนที่ตาย และคงต้องเลิกจัดงานรำลึกกันให้รถติดเปล่าๆ วันนี้คนเสื้อแดงได้เห็นว่าตำแหน่งทางการเมืองหรือตำแหน่งรัฐมนตรีนั้น แท้ที่จริงแล้ว สำคัญและมีค่ากว่าตำแหน่งคนเสื้อแดง และแกนนำมวลชนหลายเท่า” นายสุริยะใสกล่าว

นายสุริยะใสกล่าวต่อว่า หลักการสำคัญที่ยอมให้ร่าง พ.ร.บ.ปรองดองผ่านไม่ได้เพราะเป็นการทำลายหลักนิติรัฐ และยึดอำนาจตุลาการด้วยเสียงข้างมากโดยฝ่ายนิติบัญญัติ เป็นการทำลายการถ่วงดุลของ 3 อำนาจอย่างสิ้นเชิง และสถาปนาเผด็จการเสียงข้างมากแบบเบ็ดเสร็จ จึงไม่ควรหลงประเด็นเรื่องคืนเงิน 4.6 หมื่นล้าน เพราะเมื่อออกกฎหมายล้างผิดให้ พ.ต.ท.ทักษิณ พ้นผิดแล้ว ย่อมมีความชอบธรรมที่จะฟ้องเอาเงิน 4.6 หมื่นล้านคืน แม้ไม่ระบุใน พ.ร.บ.ปรองดองก็ตาม และเงินก้อนนี้น้อยนิดมากเมื่อเทียบกับเม็ดเงินของแผ่นดินที่รั่วไหลไปกับนโยบายของรัฐบาลและแผนกู้เงินในอนาคต