เกาะกระแส
00 การชุมนุมรำลึก 3 ปีที่ราชประสงค์ของคนเสื้อแดงเมื่อวันก่อนทำให้ได้เห็นร่องรอยและปรากฏการณ์หลายอย่างเกิดขึ้นซ้อนกันมาหลายอย่าง แม้ว่าถ้าวัดกันในเรื่องจำนวนคนเสื้อแดงที่เดินทางเข้ามาร่วมงาน ไม่ว่าจะมากันแบบไหนเกณฑ์กันมา หรือจ้างกันมารวมไปถึงมีสปอนเซอร์ช่วยออกค่าน้ำมันอะไรก็ตามทีแต่ก็ถือว่ามีคนเข้ามาร่วมได้หนาตานับหมื่นคน ถือว่าสามารถแสดงพลังข่มขู่ฝ่ายตรงข้ามได้พอสมควร แต่ถ้าถามว่า"บรรยากาศข้างใน" เริ่มเปลี่ยนไปจากเดิมมากมายจนสังเกตได้
00 แน่นอนว่าทั้งเรื่องความชิงดีชิงเด่น แย่งกันอยู่แถวหน้า ระหว่างพวก"หัวโจก" ปลายแถวที่พยายามไต่อันดับขึ้นมาเพื่อต้องการมายืนอยู่แถวหน้าบ้างหลังจากคนก่อนๆโดน"พิษปากพาจน" ทำซ่าส์จนถูกศาลคาดโทษห้ามปลุกระดมสร้างความเดือดร้อนรำคาญอีก เราจึงไม่เห็น จตุพร พรหมพันธุ์ ก่อแก้ว พิกุลทอง หรือแม้แต่ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ไพร่ที่อัปเกรดตัวเองก็ไม่เห็นบนเวที แม้ว่าบางทีคนพวกนี้ในใจลึกๆแล้วอาจจะไม่อยาก "ตากแดด"อีกแล้วก็เป็นได้ เพราะเวลานี้ถือว่ากลายเป็นพวก "ชนชั้นสูง"ไปแล้ว
00 บรรยากาศแปลกๆที่ว่าก็คือได้เห็นรอยปริ ที่ "ไม่ค่อยสมานเป็นเนื้อเดียวกัน" ระหว่าง ทักษิณ ชินวัตร กับคนเสื้อแดงมากขึ้นจนสังเกตเห็นได้ นั่นคือจากเรื่อง พรบ.ปรองดองฯที่จะให้ รตอ.เฉลิม อยู่บำรุง รับหน้าเสื่อดันเข้าสภาแบบรวบรัด ซึ่งตอนแรก แม้ว หวังว่านี่แหละจะเป็น"ทางลัด"ที่จะกลับบ้านอย่างเท่รวมทั้งได่เงินคืน แต่ทีนี้ปัญหาก็คือมันต้อง "เหมาเข่ง" ทำให้ อภิสิทธิ์-สุเทพ ที่เคยปลุกระดมแบบฝังหัวเอาไว้ว่าเป็น "ฆาตกรสั่งฆ่าเสื้อแดง" ต้อง"หลุด"ไปด้วย เมื่อเป็นแบบนี้มันก็ทำให้เกิดปัญหากระอักกระอ่วน ซึ่งตามอาการข้างเวทีแล้วอารมณ์เริ่มเลยเถิดเป็นรับไม่ได้กันมากขึ้น เพราะถ้าถึงขนาด "ขอดูหน้า"บรรดา สส.เพื่อไทยที่ถูกนำไปอ้างว่ามีชื่อสนับสนุนร่างกม.ฉบับ "สุดซอย"ของเหลิม บางบอนด้วย แบบนี้ถือว่าไม่ธรรมดา แต่ถึงอย่างไร"คนเหลี่ยมจัด" อย่างแม้วย่อมรับรู้ถึงสิ่งผิดปกติดังกล่าวจึงต้องออกมาเฉไฉ เป็นเรื่องแก้ไขรธน.เผด็จการ เล่าเรื่องเท็จไปเรื่อยเปื่อย สรุปความก็คือถอยเรื่องกม.ปรองดองเอาไว้ก่อน แล้วหันไปหนุนพรบ.นิรโทษฯของคนเสื้อแดงแทน แต่ก็ต้องจับตาอีกว่าจะ"ยัดใส้"กันแบบสุดซอยในชั้นแปรญัตติอีกหรือเปล่า
00 เรียบร้อยโรงเรียนโอ๊กอ๊ากไปแล้ว สำหรับ "หมอทศพร เสรีรักษ์" จำใจต้องพ้นจากเก้าอี้โฆษกรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ไปนั่งตบยุงในตำแหน่งรองเลขาฯนายกฯประสานงานกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อให้พิธีกรรายการวอยซ์ทีวีของ พานทองแท้ ชินวัตร อย่าง ธีรัตถ์ รัตนเสวี เข้ามาเสียบแทน และก็ไม่น่าแปลกใจที่จะต้องหมุนเวียนกันในหมู่คนกันเอง และที่สำคัญยังเป็นการปูนบำเหน็จให้อย่างงามเป็นตัวอย่างเมื่อครั้งเป็น"พิธีกรถามชง"รายการ "รัฐบาลยิ่งลักษณ์ พบประชาชน" ได้อย่างไม่มีที่ติ ขณะเดียวกันบางทีก็เป็นตัวอย่างให้เห็นว่า "เลียไปเถิดจะเกิดผล"