“องอาจ” เรียกร้อง “นายกฯยิ่งลักษณ์” แสดงจุดยืน เลิกผลักดันกฎหมายล้างผิด คืนทรัพย์ให้ “นช.แม้ว” เพื่อหยุดความขัดแย้ง ยันการเคลื่อนไหวของ ปชป.และไทยสปริง ดำเนินการอย่างมีสติ แต่คนสร้างเงื่อนไขคือรัฐบาลที่ออกกฎหมายละเมิดหลักนิติรัฐ นิติธรรม เพื่อคนๆ เดียว
นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ประธาน ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการผลักดันกฎหมายนิรโทษกรรมและกฎหมายปรองดองของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรอง รองนายกรัฐมนตรีว่า จะสำเร็จหรือไม่ขึ้นอยู่กับเสียงข้างมากในสภา คือเสียงของพรรคเพื่อไทยที่เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ดังนั้นไม่ว่าจะเสนอกฎหมายนิรโทษกรรม หรือปรองดองเข้ามาก็จะนำไปสู่ความแตกแยกรุนแรง ที่จะมีการเคลื่อนไหวคัดค้านทั้งในและนอกสภา มีโอกาสนำไปสู่ความรุนแรง จึงขึ้นอยู่กับเสียงข้างมากของรัฐบาลว่าจะให้กฎหมายทั้งสองฉบับเข้าสู่การพิจารณาของสภาหรือไม่ เพราะคนควบคุมเสียงข้างมาก คือรัฐบาลที่มี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นหัวหน้ารัฐบาล ควรแสดงท่าทีที่ชัดเจนว่าเห็นด้วยและจะผลักดันให้เดินหน้าหรือไม่ เพราะมีบทเรียนจากปีที่แล้วมาแล้ว ดังนั้นนายกฯซึ่งเป็นผู้นำรัฐบาลต้องรักษาความสงบเรียบร้อยของประเทศ ต้องมีท่าทีชัดเจนว่าจะปล่อยให้มีความรุนแรงเกิดในบ้านเมืองหรือไม่
“ผมเชื่อมั่นว่านายกฯในฐานะผู้นำประเทศจะตระหนักว่าการปล่อยให้บ้านเมืองมีปัญหาเพิ่มไม่ก่อให้เกิดประโยชน์แก่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง รวมถึงรัฐบาล หากคิดได้ก็ควรมีท่าทีชัดเจนว่า เห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับกฎหมายทั้งสองฉบับดังกล่าว นอกจากนี้ต้องดำเนินการทุกวิถีทางไม่ให้เกิดควาไม่สงบสุขในบ้านเมือง เพราะนายกฯไม่มีหน้าที่สร้่างปัญหาในบ้านเมือง”
ส่วนกรณีที่รัฐบาลออกมาเรียกร้องให้ กลุ่ม “ไทยสปริง” และพรรคประชาธิปัตย์ต่อต้านการบริหารของรัฐบาลเคลื่อนไหวอย่างมีสติ ประเทศจะได้ไม่บอบช้ำ และรอให้การเลือกตั้งครั้งหน้ามาตัดสินนั้น นายองอาจ กล่าวว่า ยังไม่มีใครเคลื่อนไหวที่จะเติมเชื้อไฟแห่งการนองเลือดตามที่ฝ่ายรัฐบาลกล่าวหา เพราะการเคลื่อนไหวของแต่ละกลุ่มเคลื่อนไหวอย่างมีสติ ไม่ได้ต้องการนำไปสู่ความรุนแรง แต่คนสร้างเงื่อนไขคือรัฐบาลที่พยายามออกกฎหมายละเมิด หลักนิติรัฐ นิติธรรม ออกกฎหมายเพื่อคนๆ เดียวหรือกลุ่มคนกลุ่มเดียว