xs
xsm
sm
md
lg

“เจ๊สด” เตือนเลือกตั้งซ่อมห้ามใส่ร้าย ยันลงมติ 2 ครั้ง ถอด “จอมถีบ” ตามอำนาจ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สดศรี สัตยธรรม กกต.ด้านกิจการพรรคการเมือง(แฟ้มภาพ)
“สดศรี” แจงเหตุวิวาทะ “เก่ง-แทนคุณ” หากผิดเป็นคดีอาญา เหตุ พ.ร.ก.เลือกตั้งยังไม่บังคับ เตือนหาเสียงในกติกา ห้ามใส่ร้ายแม้ไม่ได้อ้างชื่อ ขออดกลั้น เลี่ยงปะทะ พร้อมประสาน ตร.ดูแล ชี้ลงมติใบแดง “จอมถีบ” 2 ครั้ง เหตุ กก.ไม่ครบ แต่องค์ประชุมครบตาม กม. ยึดตาม พ.ร.บ.กกต.

วันนี้ (14 พ.ค.) นางสดศรี สัตยธรรม กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านกิจการพรรคการเมือง กล่าวถึงกรณีมีการเผยแพร่คลิปวิวาทะระหว่างนายการุณ โหสกุล อดีต ส.ส.เขต 12 พรรคเพื่อไทย กับนายแทนคุณ จิตต์อิสระ ว่าที่ผู้สมัครเลือกตั้ง ส.ส.เขต 12 พรรคประชาธิปัตย์ ว่าขณะนี้ยังไม่มีพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งออกมาใช้บังคับ หากมีการกระทำใดที่เข้าลักษณะเป็นความผิดก็เป็นเรื่องที่ต้องดำเนินคดีอาญาทั่วๆ ไป แต่อยากฝากเตือนไปยังพรรคการเมืองที่จะส่งผู้สมัครลงสมัครรับเลือกตั้งในครั้งนี้ขอให้หากเสียงเป็นไปตามกติกาที่กฎหมายกำหนด โดยเฉพาะการปราศรัยหาเสียงอย่ามีลักษณะเป็นการใส่ร้ายป้ายสี เพราะศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งก็ได้มีคำพิพากษาในคดีของนายการุณ ซึ่งถือเป็นการวางบรรทัดฐานไว้แล้วว่าหากมีการใส่ร้ายแม้ไม่ได้มีการเอ่ยชื่อ แต่ถ้าใช้ถ้อยคำที่ทำให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งเข้าใจได้ว่าหมายถึงใครก็ถือเป็นความผิดแล้ว โดย กกต.ก็จะได้ยึดบรรทัดฐานนี้ไว้เป็นแนวทางในการวินิจฉัยต่อไป ผู้สมัคร ผู้สนับสนุน พรรคการเมือง จึงควรระมัดระวังในการหาเสียง ใช้ความอดทน อดกลั้น และพยายามหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า ซึ่ง กกต.ก็จะพยายามดูแลให้การเลือกตั้งเป็นไปด้วยความเรียบร้อย อย่างไรก็ตามในการที่มีการรับสมัครเลือกตั้งแล้ว หากผู้สมัครรายใดเกรงว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัยในการเลือกตั้งก็สามารถร้องเรียนต่อ กกต.เพื่อที่จะได้มีการประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการเข้าไปช่วยดูแลได้

ส่วนที่กลุ่มคนเสื้อแดงมีการโจมตี กกต. โดยเฉพาะประธาน กกต.ที่ลงมติ 2 ครั้งในการการวินิจฉัยเสนอให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งนายการุณนั้น นางสดศรีกล่าวว่า โดยปกติการประชุม กกต.หากในวันนั้นกรรมการอยู่กันไม่ครบ แต่องค์ประชุมครบตามกฎหมาย ประธานในการประชุมจะใช้ดุลยพินิจว่าเรื่องที่จะพิจารณานั้นมีความสำคัญแค่ไหน และถ้าลงมติแล้วจะมีปัญหาเรื่องเสียงเท่ากันหรือไม่ ซึ่งถ้าเกรงจะเป็นเช่นนั้นก็จะเลื่อนการพิจารณาเรื่องดังกล่าวไปก่อน แต่ในกรณีของนายการุณนั้น ประธาน กกต.ซึ่งเป็นประธานการประชุมในครั้งนั้นเห็นว่าที่ประชุมที่มี กกต.4 คนในขณะนั้นสามารถพิจารณาได้เลย จึงได้มีการพิจารณากัน เมื่อเสียงออกมาเท่ากัน ประธาน กกต.ในฐานะประธานในการประชุมจึงได้ออกเสียงชี้ขาด ซึ่งเป็นไปตามที่ พ.ร.บ.กกต.ให้อำนาจไว้


กำลังโหลดความคิดเห็น