“เฉลิม” โยนพวกเสี้ยมปูดข่าวรัฐบาลจ้องปลด “ประยุทธ์” พ้น ผบ.ทบ.ยันการเมืองเดือนสิงหาฯ ไม่ร้อนแรง ป้อง “ปลอดประสพ” ประกาศจับม็อบเคลื่อนไหวประชุมผู้นำด้านน้ำฯ แค่พูดสนุก ส่วนการแก้ปัญหาภาคใต้ สั่งคณะถกโจรใต้ต้องมาปรึกษาตัวเองก่อนคุยบีอาร์เอ็น เชื่อสุดท้ายจะได้ประโยชน์ ตั้ง “ดวง อยู่บำรุง” ลูกชายสุดที่รักร่วมทีมแก้ไฟใต้
วันนี้ (14 พ.ค.) ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสข่าวรัฐบาลจะปลด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ออกจาก ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ว่าเรื่องนี้ไม่มีทางเป็นไปได้ รัฐบาลไม่เคยคิด ที่มีข่าวนี้ออกมาก็มาจากพวกเสี้ยม โรคจิต และไม่มีความคิด ดังนั้นสื่อมวลชนจึงไม่ควรไปถามและไม่ควรนำเสนอข่าวเช่นนี้เพราะไร้สาระ อย่างไรก็ตาม พล.อ.ประยุทธ์เป็นคนแรกที่ร่วมแก้ปัญหายาเสพติด และสนับสนุนกับรัฐบาลอย่างดี รวมถึงนำงบประมาณของกองทัพมาช่วยในการสร้างรั้วลวดหนามและส่งกำลังดูแล
ผู้สื่อข่าวถามว่า สถานการณ์การเมืองในปลายเดือน ส.ค.นี้จะร้อนแรงจากการที่กลุ่มคนเสื้อแดงไปคุกคามศาลรัฐธรรมนูญ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ตนเชื่อว่าไม่ร้อนแรง เพราะไม่ว่าจะศาลตัดสินอย่างไรเราก็ปฏิบัติตาม และถ้ารัฐบาลไม่ทุจริตก็อยู่ได้ยาว
“อย่าไปฟังข่าวสัพเพเหระ การเมืองจะร้อนได้อย่างไร วันนี้ถ้าพูดในระบอบประชาธิปไตย การกู้ 2 ล้านล้านบาท แก้รัฐธรรมนูญรายมาตรา สภาก็รับไปแล้ว ถามว่าแก้รัฐธรรมนูญเสร็จแล้วประเทศจะเป็นอะไร ทุกคนก็ใช้เหมือนกัน สื่อก็ต้องอย่าไปตกใจง่าย อย่างเรื่องข่าวย้าย ผบ.ทบ. บ้านเมืองกำลังสงบดีๆ ทำให้ยุ่ง”
ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า สำหรับการดูแลกลุ่มผู้ชุมนุมต่างๆ นั้น ตนได้บอกกับตำรวจว่าอย่าไปอยู่ใกล้ แต่เมื่อต้องเผชิญหน้าให้ไหว้ไปเลย แต่ถ้าไม่พอก็ลงกราบไปเลย
ส่วนที่นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่าจะให้เจ้าหน้าที่จับกุมกลุ่มคนที่มาชุมนุมประท้วงระหว่างการประชุมระดับผู้นำด้านน้ำแห่งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ครั้งที่ 2 ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ จ.เชียงใหม่ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า นายปลอดประสพก็พูดสนุก พูดเล่น ไม่ได้เรียกแขก แต่จริงๆ แล้วเขาจะเอากำลังที่ไหนไปจับ อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 17 พ.ค.นี้ตนจะเดินทางไป จ.เชียงใหม่ เพื่อตรวจดูการบูรณาการวางแผนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้งนี้จะมีการหารือว่าจะให้ผู้ชุมเข้าไปได้หรือไม่ ถ้าอนุญาตก็ให้ได้เฉพาะส่วนที่จัดเตรียมไว้ ขณะเดียวกัน ตนยังได้วางแผนไว้ว่ากรณีของประเทศคู่ขัดแย้งที่มาร่วมประชุมครั้งนี้ด้วย เราจะจัดที่พักไว้ให้ห่างกัน และห้ามพกอาวุธเข้าในที่ประชุม อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ยังไม่ได้รับรายงานเรื่องการก่อการร้าย
ร.ต.อ.เฉลิมยังกล่าวถึงถึงแนวคิดการยกเลิกการบังคับใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า การจะยกเลิกนั้นในพื้นที่ต้องมีความสงบเสียก่อน ทั้งนี้กรณีที่มีผู้ระบุว่าถูกข่มเหงรังแกเราได้ตั้งศูนย์รับเรื่องร้องเรียนแล้ว รวมถึงกรณีของผู้ที่ถูกออกหมายจับตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา หรือ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ระบุว่าถูกกลั่นแกล้ง สามารถส่งสำเนาเอกสารมายื่นร้องเรียนได้นั้น ตอนนี้ยังไม่มีการตอบสนองกลับมาจากคนในพื้นที่เลย
รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้บอกคณะฝ่ายไทยที่พูดคุยเพื่อสันติภาพกับกลุ่มบีอาร์เอ็นแล้วว่าต้องมาปรึกษาหารือกับตนและพล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ก่อนจะไปพูดคุยดังกล่าว โดยเราต้องทำอย่างมีจังหวะให้ดี ต้องลองพูดคุยอีก 2-3 ครั้ง อย่างไรก็ตาม ตนฟันธงว่าสุดท้ายเราจะได้ประโยชน์จากการพูดคุยดังกล่าว แต่ถ้าไม่คืบหน้าต้องบอกรัฐบาลมาเลเซียว่าอย่าไปให้เขาอยู่ เพราะงานนี้รัฐบาลมาเลเซียเป็นผู้กรุณานำมาซึ่งการพูดคุย มิฉะนั้นจะมีความอึมครึม
นอกจากนี้ ตนตั้งใจว่าจะเรียกประชุมพนักสอบสวนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ในเร็วๆ นี้ ซึ่งต้องประชุมในสถานที่ลับ เพื่อสอบถามพนักงานสอบสวนถึงการทำสำนวนคดีในชั้นสอบสวน ชั้นอัยการ และชั้นศาลเป็นอย่างไร เพราะเรื่องนี้ต้องมีความชัดเจน มิฉะนั้นคนจะมาประณามหยามเหยียดว่าตำรวจกลั่นแกล้ง เมื่อจับกุมแล้ว แต่ถูกส่งมาถึงศาล ผู้ต้องหากลับหลุดหมด ซึ่งเราต้องรู้ว่าที่หลุดนั้นเพราะอะไร
ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ส่วนการตั้งคณะทำงานที่มีนายประชา ประสพดี รมช.มหาดไทย พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา และนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมืองไปแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น ขณะนี้สมบูรณ์แล้วสามารถลงพื้นที่ได้ตลอด ทั้งนี้ ตนได้แต่งตั้งให้ ร.ต.อ.ดวง อยู่บำรุง รองสารวัตรศูนย์ฝึกอบรม กองบัญชาการตำรวจนครบาล (รอง สว.ศฝร.บช.น.) บุตรชายของตนอยู่ในคณะนี้ด้วย
