เด็ก พท.ชักไปกันใหญ่ ทำหนังสือยื่นศาลรัฐธรรมนูญ จี้คืนตำแหน่ง ส.ส.ให้ “จตุพร” อ้างมติองค์การรัฐสภาระหว่างประเทศ ระบุการตัดสิทธิ “ตู่” พ้น ส.ส.เป็นคำสั่งที่ไม่ถูกต้อง ไม่สอดคล้องกติการัฐสภาระหว่างประเทศ
วานนี้ (2 พ.ค.) นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยนางกุสุมาลวตี ศิริโกมุท ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะกรรมการบริหารหน่วยประจำชาติไทยในองค์การรัฐสภาระหว่างประเทศ หรือ IPU ได้เข้ายื่นหนังสือต่อศาลรัฐธรรมนูญขอให้ทบทวนการมีคำวินิจฉัยให้นายจตุพร พรหมพันธุ์ สิ้นสภาพการเป็น ส.ส.โดยให้คืนสิทธิการเป็น ส.ส.แก่นายจตุพร เนื่องจากองค์การรัฐสภามีมติว่า การที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้นายจตุพรสิ้นสภาพการเป็น ส.ส.เพราะเหตุจากศาลอาญามีคำสั่งควบคุมตัวไว้และไม่อนุญาตให้นายจตุพรออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งนั้นไม่ถูกต้อง และยังปรากฏว่าเป็นการกระทำที่ขัดต่อเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญไทยในมาตรา 102(4) ที่บัญญัติว่า ผู้ที่ถูกตัดสินว่ากระทำความผิดทางอาญาเท่านั้นที่จะสูญเสียสิทธิในการลงสมัครรับเลือกตั้งโดยไม่รวมผู้ถูกกล่าวหาอาญา โดยไทยได้ลงนามในกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิการเมือง จึงย่อมมีพันธกรณีที่ต้องคุ้มครองสิทธิที่ได้รับรองไว้ในกติกาดังกล่าว ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญก็ควรได้พิจารณาและทบทวนกรณีดังกล่าว โดยที่ตนได้มายื่นหนังสือนายจตุพรไม่ได้รับทราบด้วย แต่ตนทำในฐานะที่เป็นกรรมการขององค์การรัฐสภาระหว่างประเทศ และเห็นว่าเป็นเรื่องที่สมาชิกรัฐสภาได้รับการปฏิบัติที่ไม่ถูกต้อง สองมาตรฐาน อย่างไรก็ตาม ทางเลขาธิการองค์การรัฐสภาระหว่างประเทศ จะเดินทางมาประเทศไทยเพื่อศึกษาในประเด็นนี้ รวมถึงดูภาพรวมกรณีความขัดแย้งของ ส.ส.และ ส.ว.312 คนกับศาลรัฐธรรมนูญที่รับวินิจฉัยเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 68
ด้านนายอนุสรณ์กล่าวว่า การดำเนินการในเรื่องนี้พรรคเพื่อไทยไม่ได้เกี่ยวข้อง รวมถึงการชุมนุมของกลุ่มสื่อวิทยุประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่หน้าสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญด้วย ส่วนของนายจตุพรนั้นได้รับทราบว่านางกุสุมาลวตีจะมายื่นเรื่องนี้ต่อศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งนายจตุพรไม่ได้คาดหวังว่าศาลรัฐธรรมนูญจะกลับคำวินิจฉัย เนื่องจากไม่เชื่อมั่นกระบวนการยุติธรรมนี้ตั้งแต่แรก และเห็นว่าหากตนยึดโยงกับประชาชนได้ก็จะได้รับการเลือกตั้งเข้ามาในการเลือกตั้งครั้งหน้า
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ 13/2555 กรณีของนายจตุพรนั้น ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้นายจตุพรสิ้นสมาชิกภาพการเป็น ส.ส.เนื่องจากการถูกคุมขังทำให้ขาดจากการเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย ตาม พ.ร.บ.พรรคการเมือง 8 วรรคหนึ่ง ประกอบมาตรา 19 วรรคหนึ่ง และมาตรา 20 วรรคหนึ่ง (3) สมาชิกภาพส่งผลให้ขาดจากการเป็น ส.ส.ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 106 (4) ประกอบมาตรา 101 (3)
