รมว.ต่างประเทศจีน เข้าคารวะนายกฯ เนื่องในโอกาสเยือนอาเซียน ขอบคุณส่งสาส์นเสียใจแผ่นดินไหว ด้าน “ยิ่งลักษณ์” หวังกระชับความสัมพันธ์สองชาติ พร้อมสานสันติภาพทะเลจีนใต้ อ้อนจีนร่วมลงทุนชินคันเซ็น แย้มมีข่าวดีวีซ่า “หลินปิง” ส่งผู้เชี่ยวชาญไปคุย แต่อ้างต้องให้กลับไปหาคู่
วันนี้ (1 พ.ค.) ที่ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 09.00 น. นายหวัง อี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีน เข้าเยี่ยมคารวะ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในโอกาสเดินทางเยือนประเทศอาเซียน โดยนายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เปิดเผยผลการหารือโดยสรุปดังนี้
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีน แสดงความขอบคุณนายกรัฐมนตรีสำหรับสาส์นแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์แผ่นดินไหว ณ มณฑลเสฉวน และให้ความช่วยเหลือแก่จีนในโอกาสแรก พร้อมทั้งนำความปรารถนาดีจากประธานาธิบดีสี จิ้นผิง และ นายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียง มาสู่นายกรัฐมนตรี นอกจากนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศจีน แสดงความชื่นชมนายกรัฐมนตรีในการบริหารประเทศ ที่แม้ว่าจะมีวิกฤตเศรษฐกิจการเงินทั่วโลก และภาวะน้ำท่วมในไทยครั้งใหญ่เมื่อปี 2554 แต่เศรษฐกิจประเทศไทยยังคงเติบโต มีเสถียรภาพ และมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
ด้านนายกรัฐมนตรี แสดงความยินดีที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีน เลือกเยือนประเทศไทยเป็นประเทศแรก ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์อันใกล้ชิดระหว่างไทย-จีน พร้อมทั้งแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่อำเภอหลูซาน เมืองหย่าอัน มณฑลเสฉวน อีกครั้งหนึ่ง และเชื่อมั่นว่าการเยือนครั้งนี้จะกระชับความสัมพันธ์ไทย-จีน ให้แน่นแฟ้น รวมถึงส่งเสริมความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์อาเซียน-จีน โดยเฉพาะในปีนี้เป็นปีครบรอบ 10 ปี ความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์อาเซียน-จีน ทั้งสองฝ่ายต่างยืนยันเจตนารมณ์และความมุ่งมั่นที่จะร่วมพัฒนาความร่วมมืออาเซียน-จีน ให้เจริญก้าวหน้ายิ่งขึ้นในทุกๆ ด้าน และหวังให้มีการหารือร่วมกันอย่างสม่ำเสมอ
สำหรับประเด็นเสถียรภาพของทะเลจีนใต้นั้น นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า ไทยในฐานะผู้ประสานงานอาเซียน-จีน สนับสนุนแนวทางเพื่อดำรงไว้ซึ่งสันติภาพ ให้ทุกฝ่ายหันหน้าเข้าหากันเพื่อไม่ให้มีเหตุการณ์ที่จะกระทบต่อเสถียรภาพในทะเลจีนใต้ และหวังว่าการประชุมสมัยพิเศษของรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนกับจีน ที่กรุงปักกิ่ง ในปีนี้จะเป็นโอกาสที่ดีที่จะกระชับความสัมพันธ์เชิงยุทธศาสตร์อาเซียน-จีน ให้เป็นพลังสร้างสรรค์สำหรับเสถียรภาพและความมั่งคั่งของภูมิภาค
ด้านการค้าทั้งสองฝ่ายยินดีที่การค้า และการลงทุนระหว่างไทย-จีน เติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้นายกรัฐมนตรี หวังที่จะผลักดันให้มูลค่าการค้าระหว่างกันบรรลุเป้าหมาย 100,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2558 และไทยยังได้ประกาศการลงทุนใน 2 โครงการใหญ่คือ การลงทุนด้านการบริหารจัดการน้ำ และการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้านบาท จึงหวังให้จีนซึ่งเป็นผู้มีความชำนาญและเชี่ยวชาญโดยเฉพาะในเรื่องรถไฟความเร็วสูง ให้การสนับสนุนและร่วมกันผลักดันเส้นทางรถไฟไทย-ลาว-จีน ซึ่งเป็นเส้นทางยุทธศาสตร์ เพื่อเพิ่มพูนการค้าการลงทุน และสร้างความเขื่อมโยงระหว่างประเทศ
ด้านวัฒนธรรมและการศึกษา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สถาบันขงจื้อและศูนย์วัฒนธรรมจีนในประเทศไทยมีบทบาทส่งเสริมการเรียนการสอนภาษาและวัฒนธรรมไทย-จีนเป็นอย่างมาก และหวังว่าการจัดตั้งศูนย์วัฒนธรรมไทยในประเทศจีนจะได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลจีนเช่นกัน นายกรัฐมนตรีแสดงความขอบคุณรัฐบาลจีนกรณีแพนด้า หลินปิง ซึ่งเป็นทูตสันถวไมตรี และสัญลักษณ์ของความสัมพันธ์ใกล้ชิดระหว่างไทย-จีน ซึ่งคนไทยมีความผูกพันกับหลินปิงเป็นอย่างมาก แต่ก็เข้าใจดีถึงข้อจำกัดตามกฎระเบียบของฝ่ายจีน ที่ต้องการให้แพนด้ากลับบ้านเพื่อมีครอบครัว
ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศยืนยันว่า จะนำประเด็นต่างๆ ที่นายกรัฐมนตรี หยิบยกไปพิจารณาอย่างจริงจัง และรัฐบาลจีนเข้าใจเป็นอย่างดีว่าคนไทยมีความรักและผูกพันต่อหลินปิง จีนจึงยินดีที่จะมีความร่วมมือเป็นพิเศษต่อประเทศไทย โดยขอให้นายกรัฐมนตรีมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเดินทางไปปักกิ่ง เพื่อหารือถึงแผนงานความร่วมมือต่อไป
อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีกล่าวภายหลังการหารือร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสาธารณรัฐประชาชนจีน ถึงเรื่องการส่งคืนแพนด้าหลินปิงให้กับทางการจีนว่า ต้องให้ผู้เชี่ยวชาญของไทยไปพูดคุยกับทางประเทศจีนก่อน โดยแนวโน้มอาจมีข่าวดี แต่ธรรมชาติของหลินปิงจะต้องกลับไปหาคู่ อย่างไรก็ตามจะต้องดูข้อมูลทางวิชาการและความผูกพันก่อน